พัทลุง - พัทลุง จัดประชุมกรรมการรังนกอีแอ่นอีกครา เพื่อพิจารณามติที่ประชุมกรณีปรับลดราคากลางรังนกอีแอ่น จาก 450 ล้านบาท เหลือ 275 ล้านบาท ด้านกรรมการรังนกอีแอ่นขู่ฟ้องประธานกรรมการหากปล่อยให้มีมติซ้อน ฝั่งกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ยังยื่นเอกสารกระทรวงมหาดไทย พิจารณาสั่งย้าย ผวจ. ภายใน 10 วัน
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เป็นประธานประชุมกรรมการรังนกอีแอ่น เพื่อพิจารณาทบทวนมติที่ประชุมคณะกรรมการรังนก กรณีที่มีมติปรับลดราคากลางรังนกอีแอ่นจาก 450 ล้านบาท ให้เหลือ 275 ล้านบาท และประชาชนในจังหวัดพัทลุง นำโดยกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุง ชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้คณะกรรมการทบทวนมติที่ประชุม และขอให้กระทรวงมหาดไทย สั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงภายใน 10 วัน เนื่องจากไม่ปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ และท้องถิ่น และลงคะแนนสนับสนุนให้ปรับลดราคากลางรังนกจาก 450 ล้านบาท เหลือ 275 ล้านบาทด้วย
นายบุญพา เกื้อทอง กรรมการรังนกอีแอ่นเสียงข้างมาก กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากสภาเข้ามาเป็นกรรมการรังนกอีแอ่นในส่วนของ อบจ.จำนวน 4 คน และทุกคนขอยืนยันว่า ราคากลางอยู่ที่ 275 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลงมติไปแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าหากประธานปล่อยให้มีมติซ้อนก็จะฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดแน่นอน ส่วนของราคากลางที่เสนอนั้นได้นำราคากลางรังนกของ 4 จังหวัดมาเทียบเคียง ไม่ใช่จะนั่งคิดขึ้นมาเองตามที่พูดกัน
ทางด้าน นายวินัย บัวประดิษฐ์ ประธานกรรมการรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า การประชุมครั้งก่อนลงมติไปแล้วแต่ยังไม่ผูกพัน และยังไม่ได้ประกาศ ถ้าหากมีข้อมูลใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการก็สามารถพิจารณาใหม่ได้ แต่ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้อนุกรรมการฝ่ายกฎหมายไปดูในรายละเอียด และมอบหมายให้อนุกรรมการราคากลางได้ดูราคากลางด้วย ให้นำเรื่องส่งฝ่ายเลขาภายใน 7 วัน เพื่อที่จะนัดประชุมกันใหม่
นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง และที่ปรึกษากรรมการรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการกำหนดราคากลางรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ได้เก็บข้อมูลรอบด้านมากำหนด และออกมา จำนวน 450 ล้านบาท แต่ราคากลาง 275 ล้านบาท ไม่มีที่มาที่ไป และชี้แจงประชาชนไม่ได้ อยู่ๆ ก็นำเสนอที่ประชุม
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุงนั้น ทางกลุ่มได้มอบหมายให้ นายเกลื่อม พูลสง และนายเด่น เทพกล่ำ ผู้ประสานงานของกลุ่มนำเอกสารร้องทุกข์ไปยื่นต่อกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้พิจารณาสั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ภายใน 10 วัน