ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต เรียกผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ แท็กซี่มิเตอร์ ชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมกำหนดบทลงโทษ หลังนักท่องเที่ยวร้องเรียนถูกแท็กซี่มิเตอร์โก่งราคา ไม่กดมิเตอร์
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ห้องประชุม คสช.ภายในท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นาวาเอกพงศ์จักร์ อุไรมาลย์ ผู้บังคับการหมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะหัวหน้าชุดจัดระเบียบรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.ป.สภ.ท่าฉัตรไชย นายจตุรงค์ แก้วกสิ หัวหน้ากลุ่มวิชาการและขนส่งจังหวัดภูเก็ต รักษาการราชการแทน ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนท่าอากาศยานภูเก็ต ตัวแทนตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ (ป้ายเขียว) และรถแท็กซี่มิเตอร์ ที่ให้บริการอยู่ภายในท่าอากาศยานภูเก็ต เข้าชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมกำชับบทลงโทษกรณีไม่ปฏิบัติตามกติกาที่กำหนด หลังจากนักท่องเที่ยวร้องเรียนไปยังรัฐบาลและให้ข้อมูลผ่านสื่อว่าถูกมีแท็กซี่มิเตอร์เรียกเก็บค่าโดยสารโดยไม่กดมิเตอร์ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้กำหนดวาระจำเป็นเร่งด่วน ในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยว ทั้งกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา สมุย และภูเก็ต โดยเน้นมาตรการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะและรถแท็กซี่มิเตอร์ เพื่อสร้างลักษณ์ของการท่องเที่ยว
สำหรับการจัดทำบันทึกข้อตกลงเพื่อให้ผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะในพื้นที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ปฏิบัติตาม พร้อมบทลงโทษ แบ่งเป็นกรณีของแท็กซี่มิเตอร์ ซึ่งกำหนดเงื่อนไข ว่า ต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยในขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถ, จะต้องส่งผู้โดยสารถึงจุดหมายทางตามที่ตกลงกันไว้ โดยไม่ใช้เส้นทางอ้อมหรือวกวนและไม่หยุดแวะระหว่างทางโดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือมิได้รับการร้องขอจากผู้โดยสาร หรือในลักษณะบังคับขืนใจผู้โดยสารโดยมิยินยอมโดยเด็ดขาด,ใช้มาตรค่าโดยสาร (กดมิเตอร์) ทุกครั้งที่ให้บริการ โดยห้ามมิให้มีการเช่าเหมาเป็นรายเที่ยวโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ทุกเวลาและทุกสถานที่ รวมทั้งห้ามมิให้เสพสารเสพติด หรือ เครื่องดื่มมึนเมาในขณะปฏิบัติหน้าที่ หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำฝ่าฝืนเงื่อนไขที่กำหนดดังกล่าว ทำผิดครั้งแรกลงโทษเปรียบเทียบปรับ1,000 บาท พักรถและพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 7 วัน ทำผิดครั้งที่ 2 ลงโทษจำหน่ายรถออกจากการให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานภูเก็ตและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ในส่วนของรถยนต์บริการ (ป้ายเขียว) ก็เช่นเดียวกัน
ขณะที่ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งมีการเปิดเสรีให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ (แท็กซี่มิเตอร์) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานภูเก็ต โดยได้ว่าจ้างบริษัทแท็กซี่มิเตอร์ เซอร์วิส จำกัด บริหารจัดการ มีรถที่ให้บริการ 340 คัน ก็มีมีมาตรการลงโทษ ผู้ประกอบการแท็กซี่มิเตอร์ที่ฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งของ ท่าอากาศยานภูเก็ตเช่นเดียวกัน โดยมีโทษใน 4 ลักษณะ คือ ว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจา, ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร (ภาคทัณฑ์), พักการให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารมีกำหนดเวลา 7 วัน และยกเลิกการให้เข้าบริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสาร
ด้าน นาวาเอกพงศ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับการหมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะหัวหน้าชุดจัดระเบียบรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีความเข้มงวดในการตรวจตรารถที่ให้บริการอยู่ที่ท่าอากาศยานภูเก็ตมาอย่างต่อเนื่องและมีการทำความเข้าใจกับทางผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ให้บริการสาธารณะทุกประเภทมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีผู้โดยสารร้องเรียนเข้ามาเป็นระยะๆ เนื่องจากมีผู้ขับขี่บางคนหาประโยชน์โดยไม่กดมิเตอร์ แต่ใช้การเหมาจ่ายแทน ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จำเป็นต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ให้ได้ได้รับทราบมาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กำหนด พร้อมทั้งให้ผู้ขับขี่แต่คนมาลงนามรับทราบเงื่อนไขในการปฏิบัติต่างๆ ด้วย
อย่างไรตามในส่วนของผู้กระทำความผิดตามที่มีเรื่องร้องเรียนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งหาตัวคนขับรถมาดำเนินการรับทราบความผิดต่อไป
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ห้องประชุม คสช.ภายในท่าอากาศยานภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นาวาเอกพงศ์จักร์ อุไรมาลย์ ผู้บังคับการหมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะหัวหน้าชุดจัดระเบียบรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.ป.สภ.ท่าฉัตรไชย นายจตุรงค์ แก้วกสิ หัวหน้ากลุ่มวิชาการและขนส่งจังหวัดภูเก็ต รักษาการราชการแทน ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนท่าอากาศยานภูเก็ต ตัวแทนตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกผู้ประกอบการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ (ป้ายเขียว) และรถแท็กซี่มิเตอร์ ที่ให้บริการอยู่ภายในท่าอากาศยานภูเก็ต เข้าชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมกำชับบทลงโทษกรณีไม่ปฏิบัติตามกติกาที่กำหนด หลังจากนักท่องเที่ยวร้องเรียนไปยังรัฐบาลและให้ข้อมูลผ่านสื่อว่าถูกมีแท็กซี่มิเตอร์เรียกเก็บค่าโดยสารโดยไม่กดมิเตอร์ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้กำหนดวาระจำเป็นเร่งด่วน ในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยว ทั้งกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา สมุย และภูเก็ต โดยเน้นมาตรการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างสาธารณะและรถแท็กซี่มิเตอร์ เพื่อสร้างลักษณ์ของการท่องเที่ยว
สำหรับการจัดทำบันทึกข้อตกลงเพื่อให้ผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะในพื้นที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ปฏิบัติตาม พร้อมบทลงโทษ แบ่งเป็นกรณีของแท็กซี่มิเตอร์ ซึ่งกำหนดเงื่อนไข ว่า ต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยในขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถ, จะต้องส่งผู้โดยสารถึงจุดหมายทางตามที่ตกลงกันไว้ โดยไม่ใช้เส้นทางอ้อมหรือวกวนและไม่หยุดแวะระหว่างทางโดยไม่มีเหตุจำเป็นหรือมิได้รับการร้องขอจากผู้โดยสาร หรือในลักษณะบังคับขืนใจผู้โดยสารโดยมิยินยอมโดยเด็ดขาด,ใช้มาตรค่าโดยสาร (กดมิเตอร์) ทุกครั้งที่ให้บริการ โดยห้ามมิให้มีการเช่าเหมาเป็นรายเที่ยวโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ทุกเวลาและทุกสถานที่ รวมทั้งห้ามมิให้เสพสารเสพติด หรือ เครื่องดื่มมึนเมาในขณะปฏิบัติหน้าที่ หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำฝ่าฝืนเงื่อนไขที่กำหนดดังกล่าว ทำผิดครั้งแรกลงโทษเปรียบเทียบปรับ1,000 บาท พักรถและพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 7 วัน ทำผิดครั้งที่ 2 ลงโทษจำหน่ายรถออกจากการให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานภูเก็ตและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ในส่วนของรถยนต์บริการ (ป้ายเขียว) ก็เช่นเดียวกัน
ขณะที่ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งมีการเปิดเสรีให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ (แท็กซี่มิเตอร์) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานภูเก็ต โดยได้ว่าจ้างบริษัทแท็กซี่มิเตอร์ เซอร์วิส จำกัด บริหารจัดการ มีรถที่ให้บริการ 340 คัน ก็มีมีมาตรการลงโทษ ผู้ประกอบการแท็กซี่มิเตอร์ที่ฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งของ ท่าอากาศยานภูเก็ตเช่นเดียวกัน โดยมีโทษใน 4 ลักษณะ คือ ว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจา, ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร (ภาคทัณฑ์), พักการให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารมีกำหนดเวลา 7 วัน และยกเลิกการให้เข้าบริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสาร
ด้าน นาวาเอกพงศ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับการหมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะหัวหน้าชุดจัดระเบียบรักษาความปลอดภัยการท่าอากาศยานภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีความเข้มงวดในการตรวจตรารถที่ให้บริการอยู่ที่ท่าอากาศยานภูเก็ตมาอย่างต่อเนื่องและมีการทำความเข้าใจกับทางผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ให้บริการสาธารณะทุกประเภทมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีผู้โดยสารร้องเรียนเข้ามาเป็นระยะๆ เนื่องจากมีผู้ขับขี่บางคนหาประโยชน์โดยไม่กดมิเตอร์ แต่ใช้การเหมาจ่ายแทน ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จำเป็นต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ให้ได้ได้รับทราบมาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กำหนด พร้อมทั้งให้ผู้ขับขี่แต่คนมาลงนามรับทราบเงื่อนไขในการปฏิบัติต่างๆ ด้วย
อย่างไรตามในส่วนของผู้กระทำความผิดตามที่มีเรื่องร้องเรียนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งหาตัวคนขับรถมาดำเนินการรับทราบความผิดต่อไป