กระบี่ - คณะกรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ ลงเก็บข้อมูล พร้อมปิดห้องประชุมลับ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (29 ก.พ.) พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกรรมการคณะกรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่บริเวณโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ต.คลองขนาน และสะพานท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และประเด็นปัญหาต่างๆ ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ตามที่ตัวแทนชุมชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลเพื่อขอให้ กฟผ. ยุติการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตถึงแบบประเมิน EHIA ที่ สผ. ชี้แจงว่ายังมี 100 กว่าประเด็นที่ กฟผ.ต้องปรับปรุง
สำหรับคณะกรรมการไตรภาคี มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ตัวแทนจากภาครัฐ ประกอบด้วย กระทรวงพลังงาน กฟผ. และตัวแทนจากรัฐบาล 2.ตัวแทนจากฝ่ายผู้คัดค้านโรงไฟฟ้า เช่น องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) นักวิชาการ และ 3.ตัวแทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ เพื่อให้มีการศึกษาผลกระทบใหม่จากภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลนำไปสู่การดำเนินโครงการที่มีความสมบูรณ์ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ ได้ลงพื้นที่บริเวณที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และท่าเทียบเรือขนถ่ายถ่านหินบ้านคลองรั้ว ตามแผนที่ กฟผ.ได้เสนอแผนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาดกำลังการผลิต 870 เมกะวัตต์ เหตุการณ์เป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีกลุ่มต่อต้านประท้วงแต่อย่างได หลังจากนั้น ทางคณะกรรมการฯ ได้เดินทางกลับมาประชุมลับที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าฟังการประชุมอย่างเด็ดขาด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงได้ปิดประชุม พร้อมเดินทางกลับ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (29 ก.พ.) พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกรรมการคณะกรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่บริเวณโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ต.คลองขนาน และสะพานท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และประเด็นปัญหาต่างๆ ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ตามที่ตัวแทนชุมชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลเพื่อขอให้ กฟผ. ยุติการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตถึงแบบประเมิน EHIA ที่ สผ. ชี้แจงว่ายังมี 100 กว่าประเด็นที่ กฟผ.ต้องปรับปรุง
สำหรับคณะกรรมการไตรภาคี มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ตัวแทนจากภาครัฐ ประกอบด้วย กระทรวงพลังงาน กฟผ. และตัวแทนจากรัฐบาล 2.ตัวแทนจากฝ่ายผู้คัดค้านโรงไฟฟ้า เช่น องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) นักวิชาการ และ 3.ตัวแทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ เพื่อให้มีการศึกษาผลกระทบใหม่จากภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลนำไปสู่การดำเนินโครงการที่มีความสมบูรณ์ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ ได้ลงพื้นที่บริเวณที่จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และท่าเทียบเรือขนถ่ายถ่านหินบ้านคลองรั้ว ตามแผนที่ กฟผ.ได้เสนอแผนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาดกำลังการผลิต 870 เมกะวัตต์ เหตุการณ์เป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีกลุ่มต่อต้านประท้วงแต่อย่างได หลังจากนั้น ทางคณะกรรมการฯ ได้เดินทางกลับมาประชุมลับที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าฟังการประชุมอย่างเด็ดขาด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงได้ปิดประชุม พร้อมเดินทางกลับ
