ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ทำจดหมายถึงประธานกรรมการ 3 ฝ่าย กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ หลังพบชื่ออดีตบิ๊ก ปตท.โผล่นั่งเป็นที่ปรึกษา ถามยังมีความเป็นธรรมต่อการพิจารณาข้อเสนอของจังหวัดกระบี่อยู่หรือไม่
วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ได้ทำจดหมายถึงประธานกรรมการ 3 ฝ่าย กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ จดมายเปิดผนึกถึง พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกรรมการ 3 ฝ่าย กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ‘ถ้าใจไม่เป็นธรรม กรรมการ 3 ฝ่ายก็จะกลายเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งอันใหม่’ การเรียกร้องมานานหลายปีของชาวกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงต่อการหยุดยั้งการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นรัฐไม่เคยได้ยินตลอดมา ปล่อยให้เสียงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ดังกลบทำเนียบรัฐบาลมาเป็นเวลานาน
จนประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ต้องมานั่งอดข้าวประท้วงเป็นเวลา 14 วัน เอาความยากลำบากมาแลกต่อการที่รัฐบาลจะฟังเราบ้าง การดำเนินการครั้งนั้นส่งผลให้เสียงของประชาชนดังลอดเข้าไปในทำเนียบได้บ้าง นำมาสู่การการเจรจากับรัฐบาลจนได้ข้อตกลง 3 ประการ อยากให้ พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ จำ 3 ประการนี้ไว้ให้ดี
ข้อแรก คือ การหยุดกระบวนการพิจารณาอนุมันติรายงานอีไอเอ ข้อสอง หยุดการประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหิน ข้อสาม คือ กระบี่ขอผลิตไฟฟ้าเองจากโรงงานปาล์มโดยขอเวลารัฐบาลพิสูจน์ 3 ปี ภายใต้การสนับสนุนเรื่องสายส่งของรัฐบาล นี่คือ 3 ประการของข้อเรียกร้องในคราวนั้นข้อเรียกร้อง 2 ข้อแรกได้รับการปฏิบัติ แต่ข้อที่ 3 รัฐบาลไม่สามารถตัดสินใจจึงขอตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาข้อเสนอนี้ โดยให้มีองค์ประกอบของบุคคล 3 ฝ่ายคือ ประชาชน ราชการ และ สนช. แต่กว่าจะมีการตั้งกรรมการ 3 ฝ่ายใช้เวลาเกือบครึ่งปี
ครั้งนั้นเรามีคำถามว่าทำไมต้องใช้เวลาถึงครึ่งปี วางเกมอะไรกันอยู่หรือเปล่า? ครั้นเมื่อมีการแต่งตั้งกรรมการ 3 ฝ่ายแล้ว หน้าที่ของกรรมการระบุชัดในคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีลงนามว่า ขอให้พิจารณาข้อเรียกร้องของชาวกระบี่ คำว่าข้อเรียกร้องจึงหมายถึงข้อ 3 คือ การพิจารณาการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโรงปาล์ม แต่เมื่อมีการประชุมกรรมการ 3 ฝ่าย พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ กลับตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 3 ชุด ประกอบด้วย ชุดพลังงานหมุนเวียน ชุดอีไอเอ และชุดติดตามรับฟังความเห็น
ปัญหาจึงมีอยู่ว่าทำไมจึงตั้งกรรมการขึ้นมา 3 ชุด ในเมื่อข้อเรียกร้องที่จะต้องพิจารณามีข้อเดียวคือ เรื่องพลังงานไฟฟ้าจากโรงปาล์ม ต้องการให้ภาพมันเบลอใช่หรือไม่ หรือต้องการสร้างความชอบธรรมให้แก่รายงานอีไอเอของ กฟผ. การตั้งกรรมการขึ้นมา 3 ชุดจึงดูเหมือนขัดกับข้อเรียกร้องของชาวกระบี่ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีในคราวนั้น
อย่างไรก็ตาม อาจจะเข้าใจได้ว่า พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ต้องการความชัดเจนทั้งหมดจึงตั้งอนุกรรมการถึง 3 ชุด ต่อประเด็นนี้จึงทำความเข้าใจได้อยู่บ้าง ต่อมา ข้อสงสัยในตัว พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ เริ่มมีมากขึ้นเมื่อมีการตั้งที่ปรึกษาขึ้นมา 5 คน ปัญหาคืออะไร? ปัญหาของการตั้งที่ปรึกษามีอยู่ 2 ประการ ประการแรก ทำไมต้องตั้งที่ปรึกษาขึ้นมาในเมื่อทั้งกรรมการ 3 ฝ่าย และอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด นับรวมแล้วเกือบ 100 ชีวิต ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถจำนวนนับ 100 คนนี้ยังไม่เพียงพอเช่นนั้นหรือ?
ปัญหาประการแรกนั้นน่าสงสัย แต่ปัญหาประการที่สองทำให้เราตั้งข้อสังเกตต่อ พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ว่า ยังมีความเป็นธรรมต่อการพิจารณาข้อเสนอของจังหวัดกระบี่อยู่หรือไม่ เพราะได้ตั้งที่ปรึกษาขึ้นมา 5 คน 1 ใน 5 คนนั้น มีชื่อว่า นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานบริษัท ปตท. คำถามว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน? ปัญหาอยู่ตรงที่ ปตท.เป็น 2 บริษัทใหญ่ของไทยที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับถ่านหิน ในขณะที่ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ เคยดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการบริหารของบริษัท ปตท. การตั้งที่ปรึกษาในลักษณะนี้เป็นการเอนเอียงต่อทิศทางการทำงานของกรรมการ 3 ฝ่าย นี่ยังไม่นับรวมที่ปรึกษาอีก 4 คน ที่ยังไม่ได้สืบประวัติว่าเกี่ยวข้องอันใดต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกิจการถ่านหินหรือไม่
การตั้งที่ปรึกษาครั้งนี้จึงส่อเจตนาของ พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ จนอาจจะนำไปสู่ข้อสงสัยได้ว่าเอนเอียงหรือไม่? เราจึงขอน้อมเตือนไปยัง พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ว่า มีแต่จิตใจที่เป็นธรรมเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ จิตใจที่เอนเอียงจะนำมาสู่ปัญหาใหม่อย่างไม่รู้จักจบสิ้น กรณีกรรมการ 3 ฝ่าย หากยังมีชื่อของที่ปรึกษาซึ่งมีประวัติว่าเกี่ยวข้องต่อกิจการถ่านหิน จะทำให้การทำงานหลังจากนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก และอาจก่อปัญหาใหม่มาอย่างไม่รู้จบ
เราขอเรียกร้องต่อ พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ว่า เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลายจงจัดการต่อรายชื่อที่ปรึกษาเสียใหม่ให้สะอาดโปร่งใส มิเช่นนั้นเราจะขอเรียกร้องร้องให้กรรมการในส่วนของประชาชนจังหวัดกระบี่ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพราะชาวกระบี่ไม่ควรปฏิบัติงานในกรรมการชุดที่มีเจตนาอันน่าสงสัย เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน