ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คลังน้ำมันใต้ยังคงตั้งราคาสูงกว่าหน้าปั๊ม อ้างต้นทุนน้ำมันแพงกว่าราคาที่ถูกกำหนด จึงต้องขายส่งในราคาแพง ด้านจ๊อบเปอร์เผยจะไม่ยอมจ่ายภาษีแก่ อบจ.เด็ดขาด เพราะเอาแต่เก็บเงินค่าภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ไร้การช่วยเหลือในเวลาลำบาก
จากกรณี “จ๊อบเปอร์” (ผู้ค้าส่งน้ำมัน) และเจ้าของปั๊มน้ำมันอิสระใน 14 จังหวัดภาคใต้กว่า 1,000 แห่ง รวมทั้งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ซื้อน้ำมันบรรจุแท็งก์เพื่อใช้ในกิจการของตนเอง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากคลังน้ำมัน ปตท. และคลังร่วม เอสโซ่ เชลล์ คาลเท็กซ์ ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.สิงหนคร จ.สงขลา และ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กำหนดโควตาน้ำมันให้แก่ปั๊มที่มี “แบรนด์” เป็นของตนเอง และไม่ขายน้ำมันให้แก่จ๊อบเปอร์ เพื่อส่งขายให้แก่ผู้ค้าส่ง และปั๊มอิสระ ตามข่าวที่ “MGR ONLINE ภาคใต้” ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากจ๊อบเปอร์รายใหญ่ของ จ.สงขลา ว่า ในวันนี้ (1 ก.พ.) คลังน้ำมัน ปตท.ที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา และที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงเปิดราคาบัญชีค้าส่งแบบที่ไม่ให้มีการซื้อคือ เปิดราคาขายส่งน้ำมันดีเซล (โซลาร์) ลิตรละ 20.28 บาท น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ที่ลิตรละ 23.01 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 23.46 และเบนซินไร้สารตะกั่ว ลิตรละ 29.57 บาท ในขณะที่ราคาขายน้ำมันดีเซลที่หน้าปั๊ม จ.สงขลา อยู่ที่ลิตรละ 20.05 เท่านั้น
ซึ่งจะเห็นว่าบัญชีค้าส่งของ ปตท.แพงกว่าหน้าปั๊มเกือบทุกชนิด และหากรวมค่าขนส่ง ค่าดำเนินการต่างๆ ผู้ที่ซื้อน้ำมันดีเซลไปขาย หรือไปใช้ในกิจการของตนเองก็จะสูงกว่าราคาหน้าปั๊มลิตรละไม่ต่ำกว่า 70 สตางค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาต่อประชาชน
จ๊อบเปอร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ฝ่ายขายของ ปตท.อ้างว่า ต้นทุนน้ำมันแพงกว่าราคาที่ถูกกำหนดให้ขายที่หน้าปั๊ม ดังนั้น จึงต้องขายส่งในราคาแพง ซึ่งไม่ใช่ความผิดของ ปตท. และหากจ๊อบเปอร์ซื้อไปขายก็สามารถขายในราคาที่แพงได้ หากปั๊มน้ำมันที่ขายในราคาแพงถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก็ให้แสดงใบสำคัญในการสั่งซื้อให้เห็นว่าซื้อน้ำมันมาแพง จึงต้องขายในราคาที่แตกต่างกับปั๊มที่มีแบรนด์ของ ปตท. โดย ปตท.เชื่อว่า ราคาน้ำมันจะเป็นปัญหาอย่างนี้ต่อไปอีกนาน และ ปตท.ก็ไม่สนใจ เพราะ ปตท.ต้องรักษาผลประโยชน์ขององค์กร
ในขณะที่ นายนอบ พงษ์วัฒนา เจ้าของปั๊มอิสระ กล่าวว่า มีปั๊มอิสระเป็นจำนวนมากที่ซื้อน้ำมันของ ปตท.มาขาย โดยผ่านจ๊อบเปอร์ ซึ่งมีปั๊มอิสระเป็นจำนวนมากที่ขายน้ำมันให้แก่ ปตท. แม้จะไม่ใช่ลูกค้าโดยตรง ซึ่ง ปตท.ควรจะเห็นใจ ไม่ใช่เวลาที่กำไร ปตท.ก็ฟันกำไรจากลูกค้าปั๊มอิสระผ่านทางจ๊อบเปอร์ แต่เมื่อมีปัญหาจากการที่น้ำมันดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง ปตท.กลับไม่ยอมขาดทุนกำไร ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรที่ทำธุรกิจโดยไม่มีธรรมาภิบาล ในขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็ต้องดูแลแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้ ปตท.ดำเนินการตามอำเภอใจ
ตัวแทนผู้ค้าน้ำมันรายหนึ่งเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากปั๊มอิสระใน จ.สงขลา ว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ปั๊มอิสระที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มีน้ำมันขาย และต้องซื้อน้ำมันในราคาแพง มาขายแบบขาดทุนเพื่อที่จะไม่ต้องปิดปั๊ม จะไม่เสียภาษีให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพราะองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.รู้จักแต่เรียกเก็บเงินค่าภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง และหากไม่จ่ายก็จะส่งจดหมายขู่ว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เมื่อถึงเวลาที่ปั๊มน้ำมันเดือดร้อน มีปัญหาเกิดขึ้น ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือหรือเหลียวแลจาก อบจ.แต่อย่างใด
จ๊อบเปอร์รายหนึ่งยังเปิดเผยอีกว่า ในวันนี้ (1 ก.พ.) ยังโชคดีที่บริษัทคาลเท็กซ์ แบ่งน้ำมันในบัญชีค้าส่งให้แก่จ๊อบเปอร์แต่ละแห่ง รายละ 30,000 ลิตรบ้าง และ 20,000 ลิตรบ้าง ทำให้สามารถนำไปจัดสรรปันส่วนแก้ปัญหาให้กับปั๊มอิสระได้บ้าง ทำให้ไม่ต้องมีการปิดปั๊มทั้งหมด