ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ปตท.ใต้ป่วนเทขายน้ำมันอุตสาหกรรมแข่งกับจ๊อปเปอร์ ปั๊มอิสระแห่ซื้อราคาถูกกว่าลิตรละ 50 สตางค์ แฉมีการทุจริตในการซื้อขายน้ำมันจากคลังน้ำมัน ร่วมกับแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ต้นตอปัญหาน้ำมันเถื่อนในตลาด
วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของคลังปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จ.สงขลา และสุราษฎร์ธานี ได้มีการร้องเรียนไปยังคลังปิโตรเลียมที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการที่ ปตท.ได้นำน้ำมันในบัญชีอุตสาหกรรมซึ่งมีราคาถูกกว่าขายให้แก่ปั๊มน้ำมันของ ปตท.ลิตรละ 40-50 สตางค์ ซึ่งเป็นการผิดระเบียบ และข้อตกลง ทำให้มีลูกค้าส่วนหนึ่งซึ่งเคยซื้อน้ำมันจากจ๊อปเปอร์ของ ปตท. หันไปซื้อน้ำมันในบัญชีอุตสาหกรรมซึ่งมีตัวแทนจำหน่ายที่กรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายนภดล ดาวแสงสว่าง ผู้จัดการฝ่ายขาย คลังน้ำมัน ปตท.สิงหนคร จ.สงขลา ว่า มีเรื่องการนำน้ำมันในบัญชีอุตสาหกรรมมาขายให้แก่ปั๊มน้ำมันทั่วไปได้หรือไม่ และมีผู้ที่เป็นจ๊อปเปอร์ร้องเรียนต่อคลัง ปตท. จ.สงขลา ว่าได้รับความเดือดร้อน และไม่เป็นธรรมจากนโยบายของ ปตท.จริงหรือไม่
ซึ่ง นายนภดล ได้เปิดเผยว่า มีการร้องเรียนจากจ๊อปเปอร์ในจังหวัดสงขลาหลายรายว่า มีการนำน้ำมันดีเซลในบัญชีอุตสาหกรรมมาขายให้แก่ลูกค้าที่เป็นลูกค้าของจ๊อปเปอร์จริง ส่วนน้ำมันในบัญชีอุตสาหกรรมนั้น โดยข้อตกลงต้องขายให้แก่บัญชีอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มขนส่ง โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากตัวแทนจำหน่าย ทางคลัง ปตท. จะได้แจ้งให้แก่ส่วนกลางซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ทราบ เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะในส่วนของตนเอง และดูแลการค้าในส่วนของจ๊อปเปอร์ก็ได้ผลกระทบเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายปิติพงษ์ เย็นจิต ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในบัญชีน้ำมันอุสาหกรรม เพื่อต้องการทราบว่า น้ำมันในส่วนของบัญชีอุตสาหกรรมจำหน่ายให้แก่ผู้ที่ประกอบอุตสาหกรรมใช่หรือไม่ โดยนายปิติพงษ์ กล่าวว่า น้ำมันในบัญชีอุตสาหกรรมจำหน่ายให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อได้ทั่วไป สามารถที่จะนำไปขายในปั๊มน้ำมันได้โดยไม่มีข้อจำกัด และไม่เป็นการผิดระเบียบ หรือเงื่อนไข ส่วนราคาจะถูกกว่าราคาที่ ปตท.ขายให้แก่จ๊อปเปอร์หรือไม่เป็นกลไกของการตลาด และจ๊อปเปอร์ไม่ควรจะเดือดร้อน เพราะจ๊อปเปอร์สามารถซื้อน้ำมันบัญชีอุตสาหกรรมไปขายให้แก่ปั๊มน้ำมันได้เช่นกัน
และการที่ตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯ ขายน้ำมันให้แก่ปั๊มน้ำมันต่างๆ ในภาคใต้ก็ไม่ผิดระเบียบหรือเงื่อนไข เพราะผู้เป็นตัวแทนจำหน่ายขายได้ทั่วประเทศ การจำหน่ายยึดหลักกลไกตลาด ถ้าน้ำมันน้อยก็แพง ถ้าน้ำมันมีมากก็ขายถูก ซึ่งเป็นการตัดสินใจของผู้ซื้อ ถ้าจ๊อปเปอร์เห็นว่าการขายน้ำมันในบัญชีอุตสาหกรรมทับซ้อน ทำให้เดือดร้อนก็ต้องร้องเรียนต่อผู้บริหาร ปตท. ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายว่า จากการตรวจสอบการนำน้ำมันจากบัญชีอุตสาหกรรมมาขายให้แก่ปั๊มน้ำมันทั่วไป มีข้อสังเกตว่า มีการซื้อจากบริษัทจากส่วนกลางเพียงแห่งเดียว และขายเฉพาะน้ำมันดีเซล มีราคาถูกกว่าน้ำมันในบัญชีการค้าส่ง ลิตรละ 50 สตางค์ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นปั๊มน้ำมันในจังหวัดต่างๆ เช่น สงขลา ตรัง กระบี่ สุราษฎร์ธานี และอื่นๆ โดยมีการนำน้ำมันที่อยู่ในบัญชีอุตสาหกรรมมาขายวันละหลายแสนลิตร
นอกจากการนำเอาน้ำมันในบัญชีอุตสาหกรรมขายให้แก่ปั๊มน้ำมันทั่วๆ ไปแล้ว ยังพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในการขนส่งน้ำมันจากคลังน้ำมันร่วม เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ ซึ่งมีการขายน้ำมันให้แก่แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีการซื้อน้ำมันจากคลังร่วมที่ อ.สิงหนคร ถึง 4-5 แสนลิตรต่อวัน และในขบวนการขนส่งน้ำมันจะมีการขโมยน้ำมันที่ไปส่งให้แก่แท่นขุดเจาะวันละ 5-6 หมื่นลิตร นำมาส่งขายให้แก่ปั๊มน้ำมัน และโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปใน จ.สงขลา ซึ่งในการขโมยน้ำมันของแท่นขุดเจาะเป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้ขนส่งกับผู้รับน้ำมันของแท่นขุดเจาะ
และยังมีการพบว่า มีบริษัทตัวแทนจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นน้ำมันราคาถูก แต่ในความเป็นจริงไม่ได้ส่งน้ำมันในเรือไปยังต่างประเทศ แต่วกเรือกลับเข้าน่านน้ำไทย และขายน้ำมันดังกล่าวให้แก่กลุ่มค้าน้ำมันเถื่อนในอ่าวไทย
