ระนอง - คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 6 จุด พื้นที่รวมกว่า 483 ไร่ พร้อมรับทราบปัญหา และจะเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนเรื่องปัญหาที่ดินทำกินโดยเร็ว
วันนี้ (31 ม.ค ) พล.ร.อ.วัลลภ เกิดผล ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 6 จุด ได้แก่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 242 ไร่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 224 ไร่ พื้นที่ชุมชนปากคลอง-สะพานปลา เทศบาลตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พื้นที่บุกรุกป่าชายเลนชุมชนมิตรภาพ หมู่ที่ 4, 5 และ 6 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พบปะชาวบ้านสำนักสงฆ์สวนธรรมกิจ
จากนั้นได้ลงพื้นที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ที่พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 17 ไร่ ที่ชุมชนร่วมจิต-ท่าด่าน และพื้นที่เกี่ยวกับการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 6731/2551 หลังตลาดระนองธานี และพบปะชาวบ้าน ณ ศาลาอเนกประสงค์สถานีอนามัยท่าด่าน เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ประชุมหารือกับ นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่เทศบาลตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง โดยนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า หากพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนมีความร่วมมือแก้ไขปัญหากัน คิดว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆ คงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ในส่วนของจังหวัดระนอง มีพื้นที่ไม่มากนัก มีพื้นที่ทั้งหมด 2 ล้านกว่าไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าค่อนข้างมาก พื้นที่ราบมีอยู่ส่วนน้อย โดยพื้นที่มีหลายประเภทเป็นพื้นที่ป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของประชาชนมีไม่มากนัก และจำนวนประชากรในจังหวัดระนองได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โดยพบว่าหลายครอบครัวมีพื้นที่อยู่อาศัยไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ทางคณะกรรมาธิการได้ลงมาดูวันนี้ คือ พื้นที่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้ทำการเช่าต่อกรมป่าไม้ บางแปลงหมดอายุแล้วไม่สามารถดำเนินการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองได้ บางแปลงก็กำลังจะหมดอายุในปีนี้ ดังนั้น ที่คณะกรรมาธิการการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จึงได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน พร้อมรับฟังความคิดเห็น และรับฟังปัญหาจากประชาชน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เพื่อบูรณาการในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปด้วยดี
ด้าน พล.ร.อ.วัลลภ เกิดผล ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ที่ได้ลงพื้นที่วันนี้เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนหลายรายว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย รวมถึงรับฟังปัญหาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เทศบาลตำบลปากน้ำ และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 6 จุด ได้แก่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 242 ไร่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 224 ไร่ ปรากฏว่า ปัญหามีมากกว่าที่คิด ดังนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ ที่ลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระนอง เสนอเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป
วันนี้ (31 ม.ค ) พล.ร.อ.วัลลภ เกิดผล ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 6 จุด ได้แก่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 242 ไร่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 224 ไร่ พื้นที่ชุมชนปากคลอง-สะพานปลา เทศบาลตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พื้นที่บุกรุกป่าชายเลนชุมชนมิตรภาพ หมู่ที่ 4, 5 และ 6 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พบปะชาวบ้านสำนักสงฆ์สวนธรรมกิจ
จากนั้นได้ลงพื้นที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ที่พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 17 ไร่ ที่ชุมชนร่วมจิต-ท่าด่าน และพื้นที่เกี่ยวกับการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 6731/2551 หลังตลาดระนองธานี และพบปะชาวบ้าน ณ ศาลาอเนกประสงค์สถานีอนามัยท่าด่าน เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ประชุมหารือกับ นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่เทศบาลตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง โดยนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า หากพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนมีความร่วมมือแก้ไขปัญหากัน คิดว่าการแก้ไขปัญหาต่างๆ คงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ในส่วนของจังหวัดระนอง มีพื้นที่ไม่มากนัก มีพื้นที่ทั้งหมด 2 ล้านกว่าไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าค่อนข้างมาก พื้นที่ราบมีอยู่ส่วนน้อย โดยพื้นที่มีหลายประเภทเป็นพื้นที่ป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของประชาชนมีไม่มากนัก และจำนวนประชากรในจังหวัดระนองได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โดยพบว่าหลายครอบครัวมีพื้นที่อยู่อาศัยไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ทางคณะกรรมาธิการได้ลงมาดูวันนี้ คือ พื้นที่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้ทำการเช่าต่อกรมป่าไม้ บางแปลงหมดอายุแล้วไม่สามารถดำเนินการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดระนองได้ บางแปลงก็กำลังจะหมดอายุในปีนี้ ดังนั้น ที่คณะกรรมาธิการการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จึงได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน พร้อมรับฟังความคิดเห็น และรับฟังปัญหาจากประชาชน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เพื่อบูรณาการในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปด้วยดี
ด้าน พล.ร.อ.วัลลภ เกิดผล ประธานคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ที่ได้ลงพื้นที่วันนี้เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนหลายรายว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย รวมถึงรับฟังปัญหาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง เทศบาลตำบลปากน้ำ และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 6 จุด ได้แก่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 242 ไร่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย หมู่ที่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง แปลงเนื้อที่ 224 ไร่ ปรากฏว่า ปัญหามีมากกว่าที่คิด ดังนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ ที่ลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระนอง เสนอเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป
