ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ดีเอสไอบุกเข้าเรือนจำจังหวัดภูเก็ต แจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ต่อนักโทษรายหนึ่งที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (29 ม.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวน เข้าแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ต่อนักโทษรายหนึ่งในเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมเปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงการเดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องขัง
สืบเนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ กรณีการบุกรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และจากการสอบสวนที่ดินแปลงหนึ่ง เนื้อที่ประมาณ 92 ไร่ ซึ่งมีสภาพเป็นป่าและเขา โดยยังไม่มีสิ่งปลูกสร้าง พบว่า ที่ดินแปลงนี้มีการใช้ ส.ค.1 ปลอม มาอ้างเพื่อออกโฉนดที่ดิน ความชัดเจนของการตรวจสอบ คือ ส.ค.1 ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของบ้านพักอาศัย และบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของ ส.ค.1 ปัจจุบันยังอยู่ที่เดิมซึ่งเป็นชุมชน ไม่ใช่ที่เกิดเหตุ เมื่อพบการกระทำผิดดังกล่าวจึงได้ดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเอกชนที่เข้าไปยึดถือครอบครอง จำนวน 6 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ ผู้ที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดภูเก็ต จึงได้นำพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการมาแจ้งข้อกล่าวหาให้ได้รับทราบ ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหาแจ้งว่าจะนำหลักฐานที่มีอยู่มาชี้แจงต่อทางเจ้าหน้าที่ต่อไป
โดยในกรณีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานไปกับทางภรรยาแล้วว่า ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยกล่าวหาว่า บุกรุกอุทยานแห่งชาติฯ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ บุกรุป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และบุกรุกที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวยังมีนิติบุคคลอีก 1 รายด้วย
ส่วนกรณีข้าราชการก็จะมีการชี้มูลให้แก่ทาง ป.ป.ช. ซึ่งทราบ ว่า ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.ได้มีการรับเรื่องของข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการออกเอกสารสิทธิที่ไม่ถูกต้องไปไต่สวนแล้ว ขณะที่ทางดีเอสไอ จะสรุปในส่วนของหลักฐานที่พบส่งเพิ่มเติมไปประกอบ เนื่องจากการตรวจทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า มีการปลอมเอกสาร ส.ค.1 ทั้งฉบับ และนำมาอ้างในการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เบื้องต้น มีข้าราชการที่เกี่ยวข้องหลายคน แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาผู้ที่อยู่ในระดับสูงขึ้นไป เนื่องจากมีเนื้อหาของการบรรยายที่ขัดต่อข้อเท็จจริงที่อยู่ในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องการทำประโยชน์ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ระดับล่างได้เสนอไปแล้วว่ามีการทำประโยชน์ไม่เต็มทั้งแปลง โดยยังมีพื้นที่ป่าประมาณ 50% แต่ข้อเท็จจริงนี้ก็ถูกนำเสนอไปสู่คนที่มีอำนาจลงนามซึ่งเป็นระดับผู้ว่าราชการจังหวัด แต่มีการเขียนข้อเท็จจริงมาหักล้างกับความเห็นของเจ้าหน้าที่ที่เสนอขึ้นไป
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (29 ม.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวน เข้าแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ต่อนักโทษรายหนึ่งในเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมเปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงการเดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องขัง
สืบเนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ กรณีการบุกรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และจากการสอบสวนที่ดินแปลงหนึ่ง เนื้อที่ประมาณ 92 ไร่ ซึ่งมีสภาพเป็นป่าและเขา โดยยังไม่มีสิ่งปลูกสร้าง พบว่า ที่ดินแปลงนี้มีการใช้ ส.ค.1 ปลอม มาอ้างเพื่อออกโฉนดที่ดิน ความชัดเจนของการตรวจสอบ คือ ส.ค.1 ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของบ้านพักอาศัย และบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของ ส.ค.1 ปัจจุบันยังอยู่ที่เดิมซึ่งเป็นชุมชน ไม่ใช่ที่เกิดเหตุ เมื่อพบการกระทำผิดดังกล่าวจึงได้ดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเอกชนที่เข้าไปยึดถือครอบครอง จำนวน 6 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ ผู้ที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดภูเก็ต จึงได้นำพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการมาแจ้งข้อกล่าวหาให้ได้รับทราบ ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหาแจ้งว่าจะนำหลักฐานที่มีอยู่มาชี้แจงต่อทางเจ้าหน้าที่ต่อไป
โดยในกรณีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานไปกับทางภรรยาแล้วว่า ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยกล่าวหาว่า บุกรุกอุทยานแห่งชาติฯ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ บุกรุป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และบุกรุกที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวยังมีนิติบุคคลอีก 1 รายด้วย
ส่วนกรณีข้าราชการก็จะมีการชี้มูลให้แก่ทาง ป.ป.ช. ซึ่งทราบ ว่า ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.ได้มีการรับเรื่องของข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการออกเอกสารสิทธิที่ไม่ถูกต้องไปไต่สวนแล้ว ขณะที่ทางดีเอสไอ จะสรุปในส่วนของหลักฐานที่พบส่งเพิ่มเติมไปประกอบ เนื่องจากการตรวจทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า มีการปลอมเอกสาร ส.ค.1 ทั้งฉบับ และนำมาอ้างในการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เบื้องต้น มีข้าราชการที่เกี่ยวข้องหลายคน แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาผู้ที่อยู่ในระดับสูงขึ้นไป เนื่องจากมีเนื้อหาของการบรรยายที่ขัดต่อข้อเท็จจริงที่อยู่ในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องการทำประโยชน์ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ระดับล่างได้เสนอไปแล้วว่ามีการทำประโยชน์ไม่เต็มทั้งแปลง โดยยังมีพื้นที่ป่าประมาณ 50% แต่ข้อเท็จจริงนี้ก็ถูกนำเสนอไปสู่คนที่มีอำนาจลงนามซึ่งเป็นระดับผู้ว่าราชการจังหวัด แต่มีการเขียนข้อเท็จจริงมาหักล้างกับความเห็นของเจ้าหน้าที่ที่เสนอขึ้นไป