xs
xsm
sm
md
lg

ป่าไม้สนธิกำลัง! รื้อผลอาสิน ยึดคืนสวนป่าบางขนุน จ.ภูเก็ต หลังถูกชาวบ้าน-นายทุนบุกรุกกว่า 80 ไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กระบี่ ภูเก็ต พังงา และกำลัง อส. อำเภอถลาง เข้ารื้อถอนยางพารา และปาล์มน้ำมันในพื้นที่สวนป่าบางขนุนกว่า 80 ไร่ ที่ถูกชาวบ้าน และนายทุนบุกรุก เตรียมเสนอกรมป่าไม้ปลูกฟื้นฟูป่าให้กลับสู่ธรรมชาติต่อไป

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (9 ก.ย.) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากกระบี่ พังงา ภูเก็ต เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต อส.อำเภอถลาง ประมาณ 300 คน เข้ายึดคืนพื้นที่สวนป่าบางขนุน หมู่ที่ 5 ต.เทพกระษัตรีย์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้าทำลายผลอาสินพื้นที่กว่า 82 ไร่ ที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน โดยมี น.อ.บวร พรหมแก้วงาม รอง ผอ.กอร.มน.ภูเก็ต เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ นายเกษม สุขวารี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภูเก็ต นายบุญสืบ สมัครราช ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมป่าไม้ในพื้นที่ภูเก็ต กระบี่ และพังงาเข้าร่วม

โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ ประมาณ 300 คน พร้อมเลื่อยยนต์ มีดพร้า ใช้รถยนต์เดินทางเข้าพื้นที่บุกรุกปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน หลังจากนั้น เดินเท้าเข้าไปตัดโค่นต้นยางพารา ปาล์มน้ำมัน ด้วยเครื่องเลื่อยยนต์ และมีดพร้า พร้อมทั้งใส่ยาฆ่าตอเพื่อให้ต้นยาง และปาล์มที่ชาวบ้านปลูกในพื้นที่ป่ายืนต้นตาย

โดยยางพาราที่ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ปลูกนั้น มีทั้งต้นขนาดใหญ่ที่กีดน้ำยางได้แล้ว และมีบางสวนยังเป็นต้นเล็กอายุประมาณ 3-4 ปี เจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 2 กลุ่ม ใช้เวลาในการเลื่อย และตัดโค่นประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก็สามารถดำเนินการยึดคืนพื้นที่ได้ทั้งหมด ซึ่งการเข้ารื้อถอนผลอาสินในครั้งนี้ไม่มีชาวบ้านคนใดออกมาแสดงความเป็นเจ้าของ

นายเกษม สุขวารี ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการทำลายผลอาสินในครั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 25 (3) แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และนโยบายนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่งคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญกับการเร่งปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า โดยมีแผนงานโครงการสำคัญ 10 ข้อ และข้อที่ 4 โครงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าไม้ แก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมป่าไม้ ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และมีการปลูกพืชผลอาสิน โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ทุกแปลง

สำหรับพื้นที่ที่ดำเนินการในครั้งนี้ เป็นพื้นที่ที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ภก.1 (ถลาง) ร่วมกับสวนป่าบางขนุน ได้ตรวจยึดจับกุม และแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ สภ.ถลาง ตาม ปจว.ข้อ 6 คดีที่ 220/2558 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2558 และได้จัดแผนสนธิกำลังดำเนินการตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 โดยประมวลเรื่องเสนอนายอำเภอถลาง ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน จ.ภูเก็ต ตามประกาศกทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรื้อถอนสนิ่งปลูกสร้าง และผลอาสิน ที่เป็นต้นยางพารา และปาล์มน้ำมันออกจากพื้นที่ป่าฯบางขนุน จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 82-3-84 ไร่ ให้เป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมาย โดยได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ

ได้ประกาศครั้งที่ 1 ตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางขนุน ที่ 111/2558 ลงวันที่ 18 พ.ค.2558 เรื่องให้ผู้กระทำผิด (ไม่ทราบชื่อ) ออกจากป่าฯบางขนุน หรืองดเว้นการกระทำใดๆ ในเขตป่าฯ ผลปรากฏว่า ครบกำหนด 4 ก.ค.2558 ผู้กระทำผิดยังฝ่าฝืนคำสั่งฯ ไม่รื้อถอนผลอาสินให้เสร็จสมบูรณ์แต่อย่างใด จึงได้มีการประกาศครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2558 หลังครบกำหนด ผู้กระทำผิดก็ยังไม่รื้อถอนผลอาสินออกจากพื้นทีป่าฯ แต่อย่างใด นายอำเภอถลาง จึงได้แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการยึด ทำลาย รื้อถอน ผลอาสินในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2558 นี้ ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้กระทำผิดยังฝ่าฝืนคำสั่งฯ ไม่ยอมรื้อถอนผลอาสินออกจากพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้หน่วยรักษาป้องกันป่าที่ ภก.1 (ถลาง) และสวนป่าบางขนุน สนธิกำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 300 นาย เข้ารื้อถอนผลอาสินในวันนี้ และจะเสนอกรมป่าไม้พิจารณาปลูกฟื้นฟูป่าให้กลับสู่ธรรมชาติดังเดิมต่อไป





 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น