กระบี่ - ป่าไม้กระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย บุกยึดคืนผืนป่าที่ถูกชาวบ้าน และนายทุนบุกรุกปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมันในพื้นที่ป่าสงวนตำบลเกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ รวม 3 แปลง เนื้อกว่า 160 ไร่ มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท เตรียมใช้ ม.25 รื้อทำลายผลอาสิน เผยสภาพเป็นป่าต้นน้ำชั้น 1
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (22 ส.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายศุภชัย สุกใส ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามภาคใต้ สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กบ.9 (เกาะกลาง) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กระบี่ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.กระบี่ หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ กองพลทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่าเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน และยางพารา ตามยุทธการทวงคืนผืนป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองลัดปันจอ ท้องที่หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้นลุ่มน้ำที่ 1 A เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปอย่างยากลำบากระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เนื่องจากสภาพพื้นที่ทั่วไปมีความลาดชันสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 300 เมตร พบมีการลักลอบปลูกยางพารา อายุประมาณ 3-5 ปี เต็มพื้นที่ไปจนถึงกลางเนินเขา โดยมีการกรานต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ยืนต้นตายจำนวนมาก
คาดว่ามีการบุกรุกมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี นอกจากนี้ ยังพบมีการปลูกบ้านพัก 1 หลัง เจ้าหน้าที่ได้ยึดพื้นที่ไว้ พร้อมติดตั้งป้ายประกาศเพื่อให้เจ้าของที่ดินมาแสดงตัวตามมาตรา 25 แห่งพ.ร.บ.ป่าสงวนฯ โดยภายในระยะเวลา 45 วัน ก่อนที่จะดำเนินการ รื้อถอนอาสิน และปลูกพันธุ์ไม้ฟื้นฟูสภาพป่าต่อไป
นายอรรถพล กล่าวว่า จากการสืบสวนในเชิงลึกพบว่า พื้นที่ดังกล่าวได้มีการอ้างสิทธิยึดถือครอบครองโดยชาวบ้าน และนายทุนนอกพื้นที่ โดยในวันนี้ดำเนินการตรวจยึดพื้นที่บุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 77-2-14 ไร่ และพื้นที่บุกรุกปลูกยางพารา จำนวน 2 แปลง พื้นที่ 88-1-75 ไร่ รวมพื้นที่บุกรุกจำนวน 165-3-89 ไร่ โดยมูลค่าความเสียหายภาครัฐครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท หลังจากนี้ จะทำการตรวจสอบขยายผลในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงซึ่งมีพื้นที่ถูกบุกรุกอีกประมาณ 450 ไร่ เพื่อดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองลัดปันจอ ต.เกาะกลาง มีเนื้อที่ทั้งหมด 39,716 ไร่ มีสภาพเป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ติดทะเล ด้านบนสามารถมองวิวทิวทัศน์ท้องทะเลได้โดยรอบ เหมาะแก่การปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศ โดยนายทุนนอกพื้นที่เข้ามาว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้าไปแผ้วถางป่าปลูกอาสิน แล้วกรานต้นไม้ใหญ่ให้ยืนต้นตาย