ยะลา - ผู้ว่าฯ ยะลา เผยภาครัฐทุ่มงบประมาณช่วยเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ หลังราคายางตกต่ำอย่างหนัก พร้อมแนะเกษตรกรปลูกพืชแซมสวนยางเพิ่มรายได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
วันนี้ (6 ม.ค.) นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำหรับผลกระทบจากราคายางที่ตกต่ำในขณะนี้ ทางหน่วยงานของรัฐก็ได้มีการช่วยเหลือหลายโครงการ ล่าสุด ก็เป็นมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งได้มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ได้มอบเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรชาวสวนยางไปแล้ว 1 กลุ่ม เมื่อเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา จำนวน 241 ราย ส่วนที่เหลือก็จะมีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งจะเป็นผู้ที่ได้ลงทะเบียนเกษตรกรเอาไว้
นอกจากนั้น ก็ยังมีงบสนับสนุนโครงการต่างๆ ของทางรัฐบาล เช่น โครงการสนับสนุนอาชีพของกิจการยางแห่งประเทศไทย ที่เกษตรกรสามารถขอกู้เงินได้รายละ 5 หมื่นบาท ในอัตราดอกเบี้ย 2 เปอร์เซ็นต์ ในระยะ 4 ปี ที่เป็นนโยบายส่งเสริมอาชีพเกษตรกร นอกจากนั้น ก็ยังมีงบประมาณของจังหวัดที่เข้าไปเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านการแปรรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ ต.ตาชี อ.ยะหา หรือที่ อ.เบตง และยังมีงบประมาณของ ศอ.บต.ที่ให้งบก่อสร้างโรงงานรมควัน รวมทั้งโรงงานรับซื้อน้ำยาง ทั้งหมดก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ยาง ตัดพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์มากขึ้น
“ในส่วนของจังหวัดที่จะดำเนินการในปีงบประมาณต่อไปคือ การฟื้นฟูโรงอบยางที่มีการชำรุดเสียหาย ซึ่งมีจำนวนหลายแห่ง ก็จะลงไปฟื้นฟู ซ่อมแซม เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งจะมีการดำเนินการในปี 2559 นี้ นอกจากนั้น ทางจังหวัดยังจะมีการสนับสนุนการปลูกพืชแซมสวนยางที่มีความพยายามส่งเสริมอยู่ เนื่องจากราคาผลผลิตยางตกต่ำลงเหลือ 3 กก. 100 บาท ซึ่งจะทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ทั้งนี้ ยังได้สนับสนุนให้เกษตรกรปรับปรุงพันธุ์ยางที่มีมูลค่ามากขึ้น” ผวจ.ยะลา กล่าว
นายดลเดช ยังกล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มของราคายางในอนาคตนั้นก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเพิ่มขึ้น หรือลดลง เนื่องจากกลไกลตลาด ความต้องการยางในตลาดโลก โดยเฉพาะจีนลดลง ส่งผลให้ราคาลดลงตามเช่นกัน ซึ่งปัญหาราคายางตกต่ำในประเทศที่มีการปลูกยางพารา ก็ได้รับผลกระทบกันทั้งสิ้นไม่เพียงแต่ประเทศไทย