ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน เผยไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีที่เดินทางมา จ.สงขลา เผยเคยยื่นหนังสือให้รับทราบแล้ว ชี้จะเร่งทำข้อมูลของชุมชนเป็นหลักเพื่อคัดค้านไม่ให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เผยมีข้อมูลสำคัญของชุมชนที่ไม่ระบุในกระบวนการทำ EHIA
วันนี้ (28 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.เทพา จ.สงขลา น.ส.อัจฉราภรณ์ มะสะ เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน กล่าวว่า มีนักข่าว และเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานสอบถามกันมามากว่า ทางเครือข่ายจะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาราชการในจังหวัดสงขลา หรือไม่
“ทางเครือข่ายได้ประชุมกันแล้วหลายรอบ และได้ข้อสรุปว่า ทางเครือข่ายไม่ให้ความสำคัญเพราะที่ผ่านมา นายกฯ ประยุทธ์ มีท่าทีไม่ยอมรับฟังเสียงประชาชนตลอดมา”
น.ส.อัจฉราภรณ์ กล่าวอีกว่า ทางเครือข่ายฯ ได้ข้อสรุปในวงประชุมร่วมกันว่า ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นหนังสือ เพราะถึงแม้ว่าทางเครือข่ายจะเดินทางไปเพื่อรอยื่นหนังสือก็ไม่มั่นใจว่าจะได้ยื่นหนังสือหรือไม่ หากโชคดีได้ยื่นหนังสือก็ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่านายกฯ จะให้ความสำคัญ และเปิดอ่านหนังสือของเครือข่ายฯ
“ช่วงก่อนหน้านี้ ทางเครือข่ายฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาที่ทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว แต่รัฐบาลก็ไม่ให้ความสำคัญแต่อย่างใด ยังปล่อยให้โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเดินหน้าโครงการต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ให้ความสำคัญต่อเสียงของคนในพื้นที่ นายกฯเดินทางมาวันนี้คนเทพาจึงไม่ให้ความสำคัญ โดยทางเครือข่ายฯ มีความเห็นร่วมกันว่า จะให้ความสำคัญต่องานวิชาการ และข้อเท็จจริงจากพื้นที่”
ด้าน นายอิเดรส หะยิเด กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ ได้ข้อสรุปว่า การยื่นหนังสือให้นายกฯ เป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งเท่านั้น และที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือคัดค้านฯ ให้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
นายอิเดรส กล่าวอีกว่า ทางเครือข่ายฯ ได้สรุปบทเรียนร่วมกันแล้วว่า อย่าไปเสียเวลาต่อกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งมากเกินความจำเป็น เพราะประเด็นเร่งด่วนคือ การให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ที่จะพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และท่าเรือขนถ่านหินเทพา
เนื่องจากที่ผ่านมา กระบวนการศึกษา EHIA ผิดขั้นตอน เวทีรับฟังความเห็น (ค1. ค.2.ค.3.) ก็ผิดขั้นตอน ขาดการมีส่วนร่วมจากผู้ที่จะมีผลกระทบโดยตรง มีการกีดกันไม่ให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดออกหนังสือห้ามคนที่มีความเห็นต่างเข้าร่วมเวทีอย่างเด็ดขาด
ดังนั้น สิ่งที่ทางเครือข่ายฯ ต้องดำเนินการ และให้ความสำคัญเร่งด่วนคือ การเตรียมข้อมูลข้อเท็จจริงจากพื้นที่เพื่อเดินทางขึ้นไปกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ โดยช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดเตรียมข้อมูลระบบนิเวศของพื้นที่ ความอุดมสมบูรณ์ ลม ฟ้า อากาศ ภูเขา ป่าไม้ ป่าชายเลน สายน้ำ ทะเล สัตว์บก และสัตว์น้ำ สัตว์ป่า และสัตว์เลี้ยงแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำ แหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ EHIA อาจจะไม่ได้ศึกษา เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยพบเจอว่ามีทีมที่ทำการศึกษา EHIA ลงมาในพื้นที่