เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่หมู่บ้านนวธานี ซอย 1 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านของ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ที่ได้เดินทางกลับมาพักที่บ้านของภรรยาที่หมู่บ้านดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจของ จ.ลำปาง ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ ไปจอดรถบริเวณเยื้องหน้าบ้านในซอยดังกล่าว โดยเฉพาะมีรถฮั่มวีสีเขียวของทหาร และรถยนต์ตราโล่ของตำรวจิต่อมาเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้เดินเข้ามาติดต่อที่หน้าบ้าน จนทำให้นายวีระ มีการโพสต์ภาพ และข้อความระบุว่า
“ด่วน พ.ต.เมธา ทหาร จ.ลำปางพร้อมพวกบุกรุกเข้ามาบ้านภรรยาผมที่ จ.ลำปาง อ้างว่านายสั่งให้มาตามตัวผม ทหารมีสิทธิบุกรุกเข้าไปในบ้านประชาชน โดยไม่ต้องมีหมายค้นทำได้ด้วยหรือ หมายจับผมมีหรือไม่ นายวีระ สมความคิด ถูกศาลทหารออกหมายจับแล้วหรือ คดีอะไร นอกจากนี้ ยังมีตำรวจสายสืบ จ.ลำปางอีกหลายนายมาล้อมบ้านภรรยาผมพร้อมถ่ายรูป อ้างว่านายสั่งมา ถามว่านายชื่ออะไรก็ไม่ตอบ ถามว่าจะมาจับใครก็ไม่ตอบ ถ้าทหารและตำรวจคุกคามผมและครอบครัวเช่นนี้ ทั้งที่ไล่ผมไม่ให้อยู่ในกรุงเทพฯ ผมหลบมาอยู่ถึงลำปางยังตามมาราวีกันอีก ผมก็หมดความอดทนแล้ว ก็ขอแจ้งให้รู้ทั้งทหารตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ถ้าเข้ามาในลักษณะบุกรุกเช่นนี้อีกโดยผิดกฎหมาย และไม่มีหมายจับหมายค้นอย่าเข้ามาใกล้ผมในระยะยิง เพราะผมจะยิงทุกคนทันทีเพื่อป้องกันตัวเอง ในเมื่อทหารตำรวจผมพึ่งไม่ได้ แล้วยังจะมาทำอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของผมอีก ผมทำจริงนะอย่ามาเสี่ยงกับผม"
รายงานระบุว่า แม้บรรยากาศที่หน้าบ้านภรรยาของนายวีระ ทั้ง 2 วันที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 18 – 19 ธันวาคม มีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ประจำอยู่หน้าบ้านทั้ง 2 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง แต่บรรยากาศในวันนี้กลับไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ หรือรถของเจ้าหน้าที่อยู่เลย ทั้งที่ นายวีระยังอยู่ในบ้าน
จากการสอบถามชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ทราบว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ถอนกำลังออกไป ตั้งแต่เมื่อ 24.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ที่ไปประจำอยู่บริเวณนั้น ได้เล่าให้ ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาทราบว่า การที่เจ้าหน้าที่เข้ามาอยู่บริเวณหน้าบ้านนั้น เป็นการป้องกันไม่ให้ นายวีระ ออกบ้าน เพื่อเดินทางไปนั่งอดข้าวประท้วง ตามที่ นายวีระ ได้ประกาศไว้ ว่า จะออกมาประท้วงด้วยการอดข้าวอดน้ำ ในช่วงที่ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา มาเยือนประเทศไทย และประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ในห้วงระหว่างวันที่ 18 – 19 ธันวาคม ซึ่งหลังจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางกลับไปแล้ว เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ จึงได้ถอดกำลังออกไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา
สำหรับภาพเจ้าหน้าที่ทหารของ จ.ลำปาง ในเครื่องแบบเต็มยศ ที่ นายวีระ สมความคิด ได้ถ่ายไว้ และโพสต์ภาพลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า “Veera Somkwamkid” คือ นายทหารระดับสูงของมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ชื่อ พ.อ.เมธา ณ พิกุล รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ทหารชุดการข่าว ที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาติดตามความเคลื่อนไหวของ นายวีระ ให้อยู่ในความสงบ และไม่ให้ออกไปสร้างความวุ่นวาย ตามที่ประกาศไว้
ในวันนี้ หลังจากที่ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ อยู่หน้าบ้านแล้ว นายวีระ ก็ได้โพสต์ภาพ และข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวอีกว่า “ขอขอบคุณบรรดากัลยาณมิตร เพื่อนมิตรทุกท่านที่ให้กำลังใจพร้อมทั้งความห่วงใยให้กับผมและครอบครัวในเหตุการณ์ทั้งสองวันที่ผ่านมา หลายท่านเข้าใจ และเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ บางท่านอาจยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำเพราะท่านอาจมีข้อมูลไม่เพียงพอ แต่สิ่งที่ทุกท่านมีให้ผมคือความห่วงใย ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ผมทำไปมิได้ต้องการจะเป็นศัตรูกับประชาชนกัมพูชา แต่ต้องการให้ผู้นำของเขามีสำนึกที่จะเป็นมิตรที่ดีต่อประเทศไทยบ้าง
นายวีระ ยังโพสต์ข้อความระบุอีกว่า สิ่งที่ฮุนเซนทำกับประเทศไทยมานั้นไม่ว่ากรณีปราสาทพระวิหาร การบุกรุกแย่งยึดแผ่นดินตามแนวชายแดน การละเมิด MOU 2543 ผมต้องการให้ผู้นำกัมพูชาหยุดการรังแก เอาเปรียบ และแสดงความเป็นมิตรโดยการถอนกำลังทหารออกไปจากแผ่นดินไทย แล้วจึงมาเจรจาเรื่องการค้าเศรษฐกิจ ท่านดูต่างประเทศเช่นสหภาพยุโรปเขาหยุดการเจรจาทางการค้ากับไทยทั้งหมดไว้ก่อน ด้วยข้ออ้างว่าเราไม่มีประชาธิปไตย เขาหยุดการนำเข้าอาหาร เช่น กุ้งแช่แข็งด้วยข้ออ้างเรามีการใช้แรงงานทาส ผมไม่ต้องการขัดขวางการเจรจาทางการค้าเศรษฐกิจเพื่อความเจริญของทั้งสองประเทศ แต่ต้องการให้เป็นการเจรจาที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง มิใช่เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุน และกลุ่มผู้มีอำนาจเท่านั้น ที่สำคัญต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจและมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ผมยังรับไม่ได้ที่เห็นรัฐบาลไทยยอมเสียเปรียบเสียศักดิ์ศรีให้กัมพูชา เชิญผู้นำประเทศที่กำลังย่ำยีอธิปไตยของชาติมาเป็นแขก ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ต้องการแสดงออกถึงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ต้องไม่มีการเจรจาใดๆตราบเท่าที่กัมพูชายังละเมิดอธิปไตยของไทย
“ด่วน พ.ต.เมธา ทหาร จ.ลำปางพร้อมพวกบุกรุกเข้ามาบ้านภรรยาผมที่ จ.ลำปาง อ้างว่านายสั่งให้มาตามตัวผม ทหารมีสิทธิบุกรุกเข้าไปในบ้านประชาชน โดยไม่ต้องมีหมายค้นทำได้ด้วยหรือ หมายจับผมมีหรือไม่ นายวีระ สมความคิด ถูกศาลทหารออกหมายจับแล้วหรือ คดีอะไร นอกจากนี้ ยังมีตำรวจสายสืบ จ.ลำปางอีกหลายนายมาล้อมบ้านภรรยาผมพร้อมถ่ายรูป อ้างว่านายสั่งมา ถามว่านายชื่ออะไรก็ไม่ตอบ ถามว่าจะมาจับใครก็ไม่ตอบ ถ้าทหารและตำรวจคุกคามผมและครอบครัวเช่นนี้ ทั้งที่ไล่ผมไม่ให้อยู่ในกรุงเทพฯ ผมหลบมาอยู่ถึงลำปางยังตามมาราวีกันอีก ผมก็หมดความอดทนแล้ว ก็ขอแจ้งให้รู้ทั้งทหารตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ถ้าเข้ามาในลักษณะบุกรุกเช่นนี้อีกโดยผิดกฎหมาย และไม่มีหมายจับหมายค้นอย่าเข้ามาใกล้ผมในระยะยิง เพราะผมจะยิงทุกคนทันทีเพื่อป้องกันตัวเอง ในเมื่อทหารตำรวจผมพึ่งไม่ได้ แล้วยังจะมาทำอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของผมอีก ผมทำจริงนะอย่ามาเสี่ยงกับผม"
รายงานระบุว่า แม้บรรยากาศที่หน้าบ้านภรรยาของนายวีระ ทั้ง 2 วันที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 18 – 19 ธันวาคม มีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ประจำอยู่หน้าบ้านทั้ง 2 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง แต่บรรยากาศในวันนี้กลับไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ หรือรถของเจ้าหน้าที่อยู่เลย ทั้งที่ นายวีระยังอยู่ในบ้าน
จากการสอบถามชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ทราบว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ถอนกำลังออกไป ตั้งแต่เมื่อ 24.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ที่ไปประจำอยู่บริเวณนั้น ได้เล่าให้ ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาทราบว่า การที่เจ้าหน้าที่เข้ามาอยู่บริเวณหน้าบ้านนั้น เป็นการป้องกันไม่ให้ นายวีระ ออกบ้าน เพื่อเดินทางไปนั่งอดข้าวประท้วง ตามที่ นายวีระ ได้ประกาศไว้ ว่า จะออกมาประท้วงด้วยการอดข้าวอดน้ำ ในช่วงที่ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา มาเยือนประเทศไทย และประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ในห้วงระหว่างวันที่ 18 – 19 ธันวาคม ซึ่งหลังจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางกลับไปแล้ว เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ จึงได้ถอดกำลังออกไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา
สำหรับภาพเจ้าหน้าที่ทหารของ จ.ลำปาง ในเครื่องแบบเต็มยศ ที่ นายวีระ สมความคิด ได้ถ่ายไว้ และโพสต์ภาพลงในเฟสบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า “Veera Somkwamkid” คือ นายทหารระดับสูงของมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ชื่อ พ.อ.เมธา ณ พิกุล รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ทหารชุดการข่าว ที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาติดตามความเคลื่อนไหวของ นายวีระ ให้อยู่ในความสงบ และไม่ให้ออกไปสร้างความวุ่นวาย ตามที่ประกาศไว้
ในวันนี้ หลังจากที่ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ อยู่หน้าบ้านแล้ว นายวีระ ก็ได้โพสต์ภาพ และข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวอีกว่า “ขอขอบคุณบรรดากัลยาณมิตร เพื่อนมิตรทุกท่านที่ให้กำลังใจพร้อมทั้งความห่วงใยให้กับผมและครอบครัวในเหตุการณ์ทั้งสองวันที่ผ่านมา หลายท่านเข้าใจ และเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ บางท่านอาจยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำเพราะท่านอาจมีข้อมูลไม่เพียงพอ แต่สิ่งที่ทุกท่านมีให้ผมคือความห่วงใย ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ผมทำไปมิได้ต้องการจะเป็นศัตรูกับประชาชนกัมพูชา แต่ต้องการให้ผู้นำของเขามีสำนึกที่จะเป็นมิตรที่ดีต่อประเทศไทยบ้าง
นายวีระ ยังโพสต์ข้อความระบุอีกว่า สิ่งที่ฮุนเซนทำกับประเทศไทยมานั้นไม่ว่ากรณีปราสาทพระวิหาร การบุกรุกแย่งยึดแผ่นดินตามแนวชายแดน การละเมิด MOU 2543 ผมต้องการให้ผู้นำกัมพูชาหยุดการรังแก เอาเปรียบ และแสดงความเป็นมิตรโดยการถอนกำลังทหารออกไปจากแผ่นดินไทย แล้วจึงมาเจรจาเรื่องการค้าเศรษฐกิจ ท่านดูต่างประเทศเช่นสหภาพยุโรปเขาหยุดการเจรจาทางการค้ากับไทยทั้งหมดไว้ก่อน ด้วยข้ออ้างว่าเราไม่มีประชาธิปไตย เขาหยุดการนำเข้าอาหาร เช่น กุ้งแช่แข็งด้วยข้ออ้างเรามีการใช้แรงงานทาส ผมไม่ต้องการขัดขวางการเจรจาทางการค้าเศรษฐกิจเพื่อความเจริญของทั้งสองประเทศ แต่ต้องการให้เป็นการเจรจาที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง มิใช่เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุน และกลุ่มผู้มีอำนาจเท่านั้น ที่สำคัญต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจและมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ผมยังรับไม่ได้ที่เห็นรัฐบาลไทยยอมเสียเปรียบเสียศักดิ์ศรีให้กัมพูชา เชิญผู้นำประเทศที่กำลังย่ำยีอธิปไตยของชาติมาเป็นแขก ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ต้องการแสดงออกถึงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ต้องไม่มีการเจรจาใดๆตราบเท่าที่กัมพูชายังละเมิดอธิปไตยของไทย