xs
xsm
sm
md
lg

ศาลสั่งประหารชีวิต! 2 ชาวพม่า ฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอังกฤษ บนเกาะเต่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สุราษฎร์ธานี - คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุย ตัดสินประหารชีวิต 2 ผู้ต้องหาชาวพม่า ที่ก่อเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2557 แม่ของ 2 ผู้ต้องหาร้องไห้โฮโผเข้ากอดลูกชายกลางศาล ทีมทนาย และฝ่ายกฎหมายสถานทูตพม่า เตรียมยื่นอุทธรณ์ขอความเป็นธรรม ส่วนครอบครัวของนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ แถลงขอบคุณคณะผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัว

เมื่อเวลา 10.40 น.วันนี้ (24 ธ.ค.) คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ขึ้นบัลลังก์พิพากษาคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายซอ ลิน หรือโซเรน และนายเวพิว หรือวิน เป็นจำเลยทั้ง 2 ในคดีอาญา หมายเลขดำเลขที่ 2040/2547 โดยโจทก์ได้ขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 2 ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันฆ่า นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราและฆ่า น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2557 ที่บริเวณโขดหินริมชายหาดด้านปลายแหลม จปร.หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

โดยการฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว ได้มี พ่อ แม่ น้องชาย น้องสาว ของนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ เข้าร่วม พร้อมด้วยล่ามแปล ส่วนฝ่ายของ น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ ไม่ได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาคดีแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในส่วนของฝ่ายจำเลยนั้น มีทีมทนายที่นำโดย นายนคร ชมพูชาติ หัวหน้าทีมทนายความ มาพร้อมกับ นางพิว ชุยนุก แม่ของนายเวพิว และนางเมไต แม่ของนายซอลิน เข้าร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาในครั้งนี้ด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้นำตัวนายเวพิว และนายซอลิน เข้ามาภายในห้องพิจารณาคดีเพื่อฟังการอ่านคำพิพากษา

จากนั้นผู้พิพากษา ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้อ่านคำพิพากษาว่า นายซอลิน จำเลยที่ 1 และนายเวพิว จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289 (7), 276 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 และจำเลยที่ 2 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) วรรคแรก และพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา12(1), 18 วรรคสอง, 62 วรรคหนึ่ง อีกกระทงหนึ่ง

การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดต่อไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 1 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 2 เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภริยาตนอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 20 ปี ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จำคุกจำเลยทั้ง 2 มีกำหนด 2 ปี ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางและเวลาตามกฎหมาย ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่มีหนังสือเดินทาง และไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านการตรวจของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองมิได้ยื่นรายการตามแบบที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย เป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียวกัน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน

จึงให้ลงโทษฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน ฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง

ส่วนถ้อยคำรับในชั้นจับกุมในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การสืบสวนจนสามารถยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางได้ เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา78 ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 เดือน


เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งสองแล้ว ก็ไม่อาจนำโทษจำคุกในความผิดกระทงอื่นของจำเลยทั้งสองมารวมได้อีก คงให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองสถานเดียว ให้คืนจอบของกลางแก่เจ้าของ กับให้จำเลยที่ 2 ใช้ราคาโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลาง 15,000 บาท แก่ทายาทของผู้ตายที่ 1 ข้อหา และคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาประหารชีวิตนายซอลิน และนายเวพิว แล้ว นางเมไต และนางพิว ชุยนุก ได้โผเข้ากอดลูกชายทั้งสองคนร้องไห้โฮกลางห้องพิจารณาคดี พร้อมกับคร่ำครวญว่า ลูกชายของพวกเขาทั้งสองคนไม่มีความผิด ขอให้ศาลให้ความเป็นธรรมต่อลูกชายตนเองด้วย โดยทีมทนายความ และฝ่ายกฎหมายจากสถานทูตพม่า ได้ร่วมปรึกษาเพื่อเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาล ซึ่งทางทีมทนายความยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมคำให้การที่เป็นประโยชน์ต่อจำเลยทั้งสองต่อศาลอุทธรณ์เพื่อให้พิจารณาคดีนี้ใหม่อีกครั้ง คาดว่าทีมทนายจะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ตามที่ศาลอุทธรณ์กำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว ทีมทนายความได้พานางเมไต และนางพิว ชุยนุก ที่อยู่ในอาการร้องไห้ตลอดเวลากลับที่พักโดยต้องเข้าพยุงทั้งสองคนขึ้นรถ

ด้านครอบครัวของนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ ได้แถลงขอบคุณผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของพวกเขา ซึ่งครอบครัวมิลเลอร์ ได้อดทนรอคำพิพากษามากว่า 14 เดือน หลังจากเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นกับครอบครัว และในวันนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าพี่ชายคือ นายเดวิด ได้ตายด้วยความทรมานจากการถูกทุบตีด้วยจอบ จึงขอขอบคุณผู้พิพากษาที่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวตนเอง

ในขณะที่ นายอานดี้ ฮออล์ ที่ปรึกษาฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ เครือข่ายสิทธิแรงงานข้ามชาติ ระบุว่า ฝ่ายจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ขอความเป็นธรรมต่อไป

พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีศาลตัดสินประหารชีวิต 2 ผู้ต้องหาชาวพม่าคดีเกาะเต่าว่า ถือเป็นคำตัดสินที่ดี ทุกอย่างเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายทุกประการ ส่วนประชาชนจะเคลือบแคลงสงสัยว่าผู้ต้องหาเหล่านี้เป็นแพะหรือไม่นั้น ส่วนตัวในฐานะตำรวจคนหนึ่งมองว่าทุกอย่างเป็นไปตามหลักทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจน เนื่องจากการตัดสินของศาลจะพิจารณาจากพพยานหลักฐานอยู่แล้ว ขณะที่หลักฐานชิ้นสำคัญในคดีนี้ตนยังไม่ทราบเพราะไม่ได้เห็นสำนวน แต่เท่าที่ทราบเห็นว่าหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีและใช้ประกอบสำนวนนั้นเป็นหลักบานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดีเอ็นเอที่อยู่ในช่องคลอดของผู้เสียชีวิต ก็เป็นจุดบ่งชี้หรือเป็นพยานชิ้นสำคัญในทางนิติวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตามการตัดสินของศาลครั้งนี้ตนมองว่าศาลใช้ดุลยพินิจวิเคราะห์โดยรอบคอบแล้วจึงมีคำตัดสินออกมา สามารถบอกได้ว่ากรรมใดใครก่อ คนนั้นต้องรับไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น