ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภูเก็ต ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชังหวัดภูเก็ต ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต น.ส.ประณีต ตำหรับ คณะกรรมการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ตัวแทนผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฎิรูปสังคมและการเมืองจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือ เรื่องดำเนินการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ให้กแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือแทน
น.ส.ประณีต ตำหรับ คณะกรรมการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) กล่าวถึงมายื่นหนังสือในครั้งนี้ว่า ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้มีการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ และเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาของ ขปส. มาโดยตลอด โดยเฉพาะการเสนอให้เร่งรัดการดำเนินงานโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน และนโยบายโฉนดชุมชน แต่ปรากฏว่า ข้อเสนอ และข้อเรียกร้องของ ขปส.กลับไม่มีผลความคืบหน้าในการดำเนินงานเท่าที่ควร ดังนั้น ขปส.ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีมีบัญชาเร่งรัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาดังนี้
ประกอบด้วย 1.กรณีสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินและโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ให้เร่งดำเนินการสถาบันดังกล่าวขยายเวลาการยุบสถาบันจาก 5 ปี เป็นเวลา 10 ปี 2.กรณีโฉนดชุมชน ขปส.ได้ทราบว่า มีหนังสือเวียนของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานโฉนดชุมชนยุติบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ลง ดังนั้น ขปส. ใคร่กราบเรียนให้นายกฯ มีคำสั่งให้ทบทวนหนังสือเวียนของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 3.กรณีการประกาศอุทยานแห่งชาติเพิ่มอีก จำนวน 21 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าให้ประเทศอนุรักษ์จาก 38.8 ล้านไร่ เป็น 43.5 ล้านไร่ นั้น ทาง ขปส.เห็นว่า การเร่งรัดประกาศเขตอุทยานโดยขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และไม่มีการกันพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และป่าชุมชนออกการประกาศ อาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัยในเขตป่าเป็นจำนวนมาก และจะกลายเป็นความขัดแย้งรัฐกับชุมชนในอนาคต จึงขอให้ทบทวนการดำเนินดังกล่าว
4.ให้มีทบทวน และแก้ไขปัญหาการดำเนินการตาม “แผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน” และคำสั่ง/ประกาศ คสช.ที่ส่งผลกระทบอันไม่เป็นธรรมต่อวิถีชีวิตประชาชน และไม่ได้เป็นไปตามการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ดังที่เครือข่ายภาคประชาชนได้ตั้งข้อสังเกต และได้นำเสนอประเด็นปัญหามาแล้วหลายครั้ง 5.ให้เร่งรัดสั่งการให้มีกำหนดนัดหมายเวลาในการประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการแก้ไขปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง ระดับจังหวัดเป็นการเร่งด่วน
น.ส.ประณีต กล่าวต่ออีกว่า ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินการตามข้อเสนอข้างต้น และแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการอย่างเป็นทางการให้แก่ ขปส. ได้ทราบต่อไปเป็นการเร่งด่วน ว่าท่านจะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ยืดเยื้อมายาวนานให้บรรลุผลตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล “คืนความสุขให้ประชาชน” ทั้ง ขปส.จะติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ถ้าหากไม่มีการดำเนินการใดๆ ขปส.พร้อมที่จะยกระดับการดำเนินการในมาตรการต่อไป
ด้าน นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากตนรับหนังสือแล้วจะรายงานให้ผู้ราชการจังหวัดภูเก็ตทราบ และจะดำเนินส่งหนังสือดังกล่าวไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วนต่อไป
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต น.ส.ประณีต ตำหรับ คณะกรรมการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ตัวแทนผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฎิรูปสังคมและการเมืองจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือ เรื่องดำเนินการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ให้กแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือแทน
น.ส.ประณีต ตำหรับ คณะกรรมการขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) กล่าวถึงมายื่นหนังสือในครั้งนี้ว่า ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้มีการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ และเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาของ ขปส. มาโดยตลอด โดยเฉพาะการเสนอให้เร่งรัดการดำเนินงานโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน และนโยบายโฉนดชุมชน แต่ปรากฏว่า ข้อเสนอ และข้อเรียกร้องของ ขปส.กลับไม่มีผลความคืบหน้าในการดำเนินงานเท่าที่ควร ดังนั้น ขปส.ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีมีบัญชาเร่งรัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาดังนี้
ประกอบด้วย 1.กรณีสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินและโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ให้เร่งดำเนินการสถาบันดังกล่าวขยายเวลาการยุบสถาบันจาก 5 ปี เป็นเวลา 10 ปี 2.กรณีโฉนดชุมชน ขปส.ได้ทราบว่า มีหนังสือเวียนของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานโฉนดชุมชนยุติบทบาทการปฏิบัติหน้าที่ลง ดังนั้น ขปส. ใคร่กราบเรียนให้นายกฯ มีคำสั่งให้ทบทวนหนังสือเวียนของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 3.กรณีการประกาศอุทยานแห่งชาติเพิ่มอีก จำนวน 21 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าให้ประเทศอนุรักษ์จาก 38.8 ล้านไร่ เป็น 43.5 ล้านไร่ นั้น ทาง ขปส.เห็นว่า การเร่งรัดประกาศเขตอุทยานโดยขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และไม่มีการกันพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และป่าชุมชนออกการประกาศ อาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัยในเขตป่าเป็นจำนวนมาก และจะกลายเป็นความขัดแย้งรัฐกับชุมชนในอนาคต จึงขอให้ทบทวนการดำเนินดังกล่าว
4.ให้มีทบทวน และแก้ไขปัญหาการดำเนินการตาม “แผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน” และคำสั่ง/ประกาศ คสช.ที่ส่งผลกระทบอันไม่เป็นธรรมต่อวิถีชีวิตประชาชน และไม่ได้เป็นไปตามการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ดังที่เครือข่ายภาคประชาชนได้ตั้งข้อสังเกต และได้นำเสนอประเด็นปัญหามาแล้วหลายครั้ง 5.ให้เร่งรัดสั่งการให้มีกำหนดนัดหมายเวลาในการประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการแก้ไขปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง ระดับจังหวัดเป็นการเร่งด่วน
น.ส.ประณีต กล่าวต่ออีกว่า ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี เร่งดำเนินการตามข้อเสนอข้างต้น และแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการอย่างเป็นทางการให้แก่ ขปส. ได้ทราบต่อไปเป็นการเร่งด่วน ว่าท่านจะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ยืดเยื้อมายาวนานให้บรรลุผลตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล “คืนความสุขให้ประชาชน” ทั้ง ขปส.จะติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ถ้าหากไม่มีการดำเนินการใดๆ ขปส.พร้อมที่จะยกระดับการดำเนินการในมาตรการต่อไป
ด้าน นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากตนรับหนังสือแล้วจะรายงานให้ผู้ราชการจังหวัดภูเก็ตทราบ และจะดำเนินส่งหนังสือดังกล่าวไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วนต่อไป