ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อ. จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการเสริมสร้างผลิตภัณฑ์โอทอป มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์โอทอปที่สามารถแข่งขันได้ ตามนโยบายนโยบายปฏิรูปประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการเสริมสร้างผลิตภัณฑ์โอทอป ให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างคุณภาพสินค้าโอทอปเพื่อรายได้ที่ยั่งยืน โดยมีกรมวิทยาศาสตร์บริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อุตสาหกรรมจังหวัด พัฒนาการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการโอทอป กลุ่มอาหาร ของใช้ เครื่องประดับตกแต่ง และของที่ระลึก ฮาลาล สมุนไพรที่ไม่ใช้อาหาร และกลุ่มห้องปฏิบัติการที่ให้บริการทดสอบคุณภาพสินค้าโอทอป โดยมีเข้าร่วมประมาณ 350 คน โดยมี นายสาธิต ธรรมประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน
นายสุทธิเวช ต.แสงจันทร์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สินค้าโอทอปมีมูลค่าการเงินหมุนสะพัดประมาณ 100,000 ล้านบาท/ปี โดยขณะนี้มีสินค้าโอทอปเพิ่มขึ้นประมาณ 250,000 ราย จากเดิมประมาณ 150,000 ราย เพราะขณะนี้ราคายางตกต่ำจึงต้องหันมาทำโอทอป แต่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานประมาณ 4,000-5,000 ผลิตภัณฑ์ภาพรวมทั้งประเทศ ผลิตภัณฑ์สินค้าที่รับการรับรองมาตรฐานจะเป็นสินค้าเครื่องอุปโภค อัญมณี เป็นต้น ส่วนสิ่งบริโภคยังมีปัญหา
แนวโน้มสินค้าจะขยายตัวเติบโต ทางกรมวิทยาศาสตร์จะเข้ามาดำเนินการสนับสนุน จะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสร้างแรงดึงดูด และทำการตลาดให้ขยายเติบโตตัวอย่างกว้างขวาง ตลอดจนให้เป็นสินค้าส่งออก หาไม่แล้วสินค้าโอทอปจะมีการแข่งขันกันเองในที่สุด และลูกค้าสินค้าโอทอปก็มีเป็นจำนวนมาก
นายสุทธิเวช กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีนโยบายปฏิรูปประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยให้กรมวิทยาศาสตร์ใกล้ชิดกับประชาชน มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์โอทอปที่สามารถแข่งขันได้ จะมีการตั้งศูนย์ประสานงานทดสอบในภูมิภาค ต่างจังหวัด โดยบุคลากรของกรมวิทยาศาสตร์ เข้ามาทำงานเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้า
สำหรับเรื่องยางนั้น นายนายสุทธิเวช กล่าวว่า จะมีการพัฒนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ทั้งสนามกีฬา ลู่ ลาน สนามเด็กเล่น สนามฟุตซอล ฯลฯ จะดำเนินการไปทั่วประเทศ ยางจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนานวัตกรรมต่อยอดจึงต้องใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสร้าง และใช้ภายในประเทศ ถัดไปจะมีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับภาคใต้ เป็นแห่งแรก
