ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง จ.สงขลา เฝ้าดูแลปลากะพงขาวอย่างใกล้ชิด หลังมีการแจ้งเตือนจากสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ในช่วงฤดูมรสุมของภาคใต้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มีฝนตกทุกวันให้ระวังเรื่องอาหาร และโรค รวมทั้งระดับน้ำที่สูงขึ้นด้วยเพื่อป้องกันปลาตาย
วันนี้ (20 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในทะเลสาบสงขลารอบๆ ต.เกาะยอ ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงที่ใหญ่ที่สุดใน จ.สงขลา ต้องดูแลปลาที่เลี้ยงไว้อย่างใกล้ชนิดในระยะนี้ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมอาจส่งผลกระทบต่อปลาที่เลี้ยงได้
เช่น ที่กระชังปลาของ นายจารึก กาลานุสนธ์ หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง หมู่ที่ 1 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเลี้ยงปลากะพงขาวมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี บอกว่า ในช่วงนี้เลี้ยงปลาทั้งหมดรวม 10 กระชัง ทั้งปลาขนาดเล็ก และปลาขนาดใหญ่ ได้มีการเฝ้าระวังและดูแลปลากะพงขาวที่เลี้ยงในกระชังอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการแจ้งเตือนจากสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูมรสุมของภาคใต้ มีฝนตกชุก ความเค็มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังต้องระวัง เนื่องจากความต้านทานเชื้อของปลาจะลดน้อยลง การให้อาหารปลาก็จะต้องลดลง และยังมีโรคพยาธิต่างๆ แพร่ระบาด และมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับเรื่องของอุณหภูมิก็จะลดต่ำลง ทำให้ปลากินอาหารน้อยลงอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือ น้ำจืดจากฝนที่ตก และน้ำที่ไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของความเค็มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ปลามีสุขภาพที่อ่อนแอความต้านทานโรคลดลง
นายจารึก กล่าวว่า ในช่วงนี้มีฝนตกลงมาติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในทะเลสาบสงขลา และในลำคลองที่เชื่อมต่อกับทะเลมีระดับสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ที่ต้องเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของน้ำ และเชื้อโรคในน้ำ รวมทั้งน้ำท่วมกระชัง
เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังจึงต้องเฝ้าระวัง และดูแลปลากะพงขาวที่เลี้ยงในกระชังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงนี้มีฝนตก และมีคลื่นลมบริเวณที่เลี้ยงปลาโดยทำการตรวจสอบกระชังเพื่อให้มีความแข้งแรง หลังจากให้อาหารปลาแต่ละกระชังเสร็จแล้ว โดยการนำอวนมาต่อกระชังให้สูงขึ้น และขยับกระชังขึ้นอีกประมาณ 30-50 ซม. เพื่อป้องกันน้ำท่วมกระชังและป้องกันไม่ให้ปลาหลุดลอดไปข้างนอกได้
