xs
xsm
sm
md
lg

หัวหน้าหน่วยกู้ภัยที่ชุมพรปัดเอี่ยวรับรองใบมรณบัตรปลอมให้ผู้ต้องหาจ้างฆ่าลูกสะใภ้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชุมพร - หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร แจ้งความถูกพาดพิงร่วมขบวนการออกใบมรณบัตรผู้ต้องหาจ้างฆ่าเภสัชกรหญิงที่ จ.สงขลา ยันไม่เคยรู้จัก เรียกร้องผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบความจริง นายอำเภอเผยออกหลักฐานการตายจริง ผู้ว่าฯ สั่งตั้งกรรมการสอบสวน

จากกรณี นางจุรี จันทร์งาม อายุ 73 ปี เศรษฐินีในจังหวัดสงขลา ผู้ต้องหาคดีจ้างวานฆ่า น.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 26 ปี เภสัชกรโรงพยาบาลควนเนียง จ.สงขลา ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน และ เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ เสียชีวิต พร้อมกับ นายอาดิศร์ ประทีปทัศน์ พนักงานจ่ายยา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2550 ที่คลินิกเวชกรรมในอำเภอควนเนียง หลังจากนั้น นางจุรี ถูกศาลจังหวัดสงขลา และศาลอุทธรณ์พิพากษาประหารชีวิต ซึ่งระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา นางจุรี ได้ยื่นหลักทรัพย์ จำนวน 5 ล้านบาท ขอประกันตัว บุตรสาวของนางจุรี และทนายความ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลาอ้างว่า นางจุรี ถึงแก่ความตาย และจัดงานศพเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 พร้อมยื่นใบมรณบัตรเป็นหลักฐานต่อศาล พร้อมขอคืนเงินประกันด้วย แต่ศาลพบมีเงื่อนงำพิรุธในเอกสารการแจ้งตายจึงสั่งให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และพบว่านางจุรี ไม่ได้เสียชีวิตจริง

จากการตรวจสอบขายผลผู้เกี่ยวข้องต่อการแจ้งออกใบมรณบัตร ประกอบด้วย นายสมโภช นวลพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งทำหนังสือรับรองการเสียชีวิตเพื่อนำไปขอใบมรณบัตรต่อปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง อ.ท่าแซะ และ นายอาคม ตวงอิทธิกุล หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุสลสงเคราะห์ รับรองการเสียชีวิตไปให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดมณีสพ ในการเผาศพที่วัดดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร นั้น

ล่าสุด วันนี้ (18 พ.ย.) เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นายอาคม ตวงอิทธิกุล หรือ “เฮียคิ้ม” กรรมการมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ และหัวหน้าหน่วยกู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรฯ กล่าวว่า หลังจากตนทราบข่าวแล้วรู้สึกตกใจอย่างมากว่ามีชื่อเข้าไปเกี่ยวต่อเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ตนไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นหน้านางจุรี และญาติของนางจุรี แต่อย่างใด และไม่เคยเซ็นเอกสารใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งตน และมูลนิธิฯ ไม่มีสิทธิที่จะไปเซ็นรับรองการตายให้แก่ผู้ใดได้ เพราะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ดำเนินการ อีกทั้งจุดเหตุเกิดอยู่ที่อำเภอท่าแซะ แต่ทำไมต้องนำเอาศพมาเผาที่วัดมณีสพ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองชุมพร ซึ่งห่างไกลกันพอสมควร จึงอยากเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ตนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือเพราะทำให้ตนเสียชื่อเสียงอย่างมาก

นายอาคม กล่าวต่อว่า หลังจากมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งออกเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนระบุชื่อตนว่ าเป็นผู้ร่วมขบวนการดำเนินการในการนำหนังสือรับรองการเสียชีวิตไปให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดมณีสพ เพื่อเผาศพดังกล่าว โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปแจ้งความต่อพักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร แล้วเนื่องจากข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงทำให้สังคมเข้าใจตนผิด ตนได้รับความเสียหายอย่างมาก

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจากการตรวจสอบปรากฏว่า ทางฝ่ายปกครองอำเภอท่าแซะมีการออกใบมรณบัตรจริง ซึ่งมีหนังสือรับรองการเสียชีวิตมาจากผู้ใหญ่บ้าน และแพทย์อนามัย เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุตายตามธรรมชาติ จึงไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนได้สอบถามไปยัง นายสมโภช นวลพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะแล้ว เบื้องต้น ได้ชี้แจงว่า วันเกิดเหตุมีลูกสาวของผู้ตายไปแจ้งนายสมโภช ผู้ใหญ่บ้านว่าแม่ตนเองซึ่งมีอายุมากแล้วได้เป็นลม และเสียชีวิตด้วยความชราภาพ เมื่อนายสมโภช ไปตรวจสอบพบศพนอนอยู่ในบ้านสภาพศพกุมมือทั้ง 2 ข้างไว้ที่หน้าอก และคลุมผ้า มีการจัดพิธีเหมือนศพทั่วๆ ไป แต่ไม่ได้เข้าไปดูศพใกล้ๆ เพราะความเชื่อถือเห็นว่าเป็นคนในหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร ได้สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งคงจะทราบข้อเท็จจริงในเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายสมโภช นวลพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ หลายครั้ง แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว ส่วนที่วัดมณีสพ ตั้งอยู่ในซอยปรมินทรมรรคา 37 ตำบลบากหมาก เขตเทศบาลเมืองชุมพร พบเพียงพระลูกวัดบอกว่า เจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์นอกพื้นที่ ส่วนสัปเหร่อไม่สบายเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช นานกว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งความคืบหน้าจะนำเสนอให้ทราบต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น