สตูล - คืบหน้าคดีพบศพเด็กวัย 8 เดือนในบ่อขยะที่สตูล หลังมีญาติขอเข้าดูศพเด็กคาดเป็นคนในครอบครัวที่หายตัวไปร่วมสัปดาห์แล้ว ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เร่งสืบเชื่อเป็นคดีสะเทือนขวัญ
วันนี้ (14 พ.ย.) พ.ต.ท.วรินทร์ วันธงชัย รอง ผกก.สภ.ละงู เปิดเผยความคืบหน้าคดีพบศพเด็กวัย 8 เดือน ถูกทิ้งในศูนย์คัดแยกขยะมูลฝอยของเทศบาลตำบลกำแพง ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ที่ 8 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ว่าขณะนี้มีหนึ่งครอบครัวได้เดินทางมาขอดูศพเด็กหลังทราบข่าว เนื่องจากตรงกับคนในครอบครัวที่หลานวัย 7 เดือน พร้อมแม่ได้หายไปจากบ้านร่วมสัปดาห์แล้ว
ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นเด็กในพื้นที่ ต.ละงู และยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะเป็นการฆาตกรรม ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์ทางการแพทย์จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ก่อน หลังชุดพิสูจน์หลักฐานตำรวจพบว่า มีถุงดำผูกติดที่คอเด็กถึง 2 ชั้น สภาพศพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน ส่วนศีรษะเด็กนั้นต้องให้ทางแพทย์พิสูจน์อีกครั้งว่าเกิดจากเครื่องคัดแยกขยะ หรือเด็กถูกกระทำจนเสียชีวิตก่อนนำมาทิ้งไว้
เหตุการณ์การพบเด็กน้อยในกองขยะสร้างความหดหู่ใจให้แก่ผู้พบเห็นเหตุการณ์ และไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนต่างพากันสาปแช่งคนก่อเหตุที่กระทำต่อเด็กที่ไร้เดียงสา
สืบเนื่องจากเหตุการณ์วานนี้ (13 พ.ย.) นางจำปา สังสรรค์ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นคนงานคัดแยกขยะในศูนย์คัดแยกขยะมูลฝอย เทศบาลตำบลกำแพง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล โดยเล่าเหตุการณ์นาทีน่าหวาดกลัวว่า ระหว่างนั่งทำงานคัดแยกขยะอยู่นั้น มีขยะที่ไหลมาตามสายพาน เหลือบไปเห็นขยะชิ้นหนึ่งคล้ายตุ๊กตา เมื่อสายพานไหลเข้ามาใกล้จึงหยิบมาดู และจับนิ้วมาเปรียบเทียบกับนิ้วของตัวเอง และพบว่าไม่ใช่ตุ๊กตา ก่อนจะส่งเสียงหวีดร้อง และแจ้งให้เพื่อนร่วมงานที่นั่งทำงานอยู่ด้วยกัน 8 คน มาช่วยกันดู ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู พร้อมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลละงู เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เป็นเด็กผู้ชายวัย 8 เดือน อยู่ในสภาพลิ้นจุกปาก ศพขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็น สวมเสื้อแขนยาวลายเขียว ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ซึ่งศพดังกล่าวจะส่งไปพิสูจน์ศพไปยัง รพ.สงขลานครินทร์หาดใหญ่อีกครั้งถึงสาเหตุการเสียชีวิต หลังพบบาดแผลบนศีรษะซึ่งอาจจะเกิดจากเครื่องคัดแยกขยะ หรือถูกทำลายแล้วมาทิ้งไว้