ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน และตรวจราชการด้านพลังงานจังหวัดภาคใต้ที่ภูเก็ต ชื่นชมรูปแบบการบริหารจัดการขยะของเทศบาลนครภูเก็ต นำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริง พร้อมเผยวางนโยบายเพิ่มขนาดสายส่งเพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้อย่างยั่งยืน
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารสำนักงาน ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต พร้อมรับฟังบรรยายสรุป และติดตามผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต ตามโครงการตรวจราชการด้านพลังงาน จังหวัดภาคใต้ โดยมี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวิโรจน์ ดำคง พลังงานจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังรับฟังบรรยายสรุป และเข้าเยี่ยมชมศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต ว่า “จากการตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการขยะ ของศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต พบว่า เทศบาลนครภูเก็ต มีรูปแบบการบริหารจัดการขยะได้ดี โดยการกำจัดขยะโดยวิธีการเผาของโรงกำจัดขยะ สามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริง และมีการวางแผนบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ในส่วนของการใช้พลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้านั้น เนื่องด้วยภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวอาจจะมีอุปสรรคในการลดใช้พลังงานไฟฟ้าบ้าง อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัด ในส่วนของภาครัฐ ได้วางนโยบายเพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้อย่างยั่งยืน โดยจะเพิ่มขนาดของสายส่งให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 3 ปี”
สำหรับภาพรวมการบริหารจัดการกำจัดขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ตนั้น ปัจจุบันแบ่งการกำจัดออกเป็นการเผา และการฝังกลบ ซึ่งในปี 2558 มีขยะมูลฝอย 750 ตันต่อวัน คิดมูลค่ากำจัดมูลฝอย 520 บาทต่อตัน ปัจจุบัน มีอัตราเพิ่มของมูลฝอย ร้อยละ 7.3 ต่อปี ทั้งนี้ จากการกำจัดขยะโดยโรงเตาเผาขยะมูลฝอย 700 ตันต่อวัน สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้ 12 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง สามารถส่งออกไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ 72,000-79,200 เมกะวัตต์ต่อปี
ทั้งนี้ ภายหลังตรวจเยี่ยม และติดตามผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการขยะของศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชม และติดตามผลการดำเนินงานพลังงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงภูเก็ต 3 และระบบการควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตด้วย
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารสำนักงาน ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะเดินทางเข้าตรวจเยี่ยมศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต พร้อมรับฟังบรรยายสรุป และติดตามผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต ตามโครงการตรวจราชการด้านพลังงาน จังหวัดภาคใต้ โดยมี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวิโรจน์ ดำคง พลังงานจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังรับฟังบรรยายสรุป และเข้าเยี่ยมชมศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต ว่า “จากการตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการขยะ ของศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต พบว่า เทศบาลนครภูเก็ต มีรูปแบบการบริหารจัดการขยะได้ดี โดยการกำจัดขยะโดยวิธีการเผาของโรงกำจัดขยะ สามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริง และมีการวางแผนบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ในส่วนของการใช้พลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้านั้น เนื่องด้วยภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวอาจจะมีอุปสรรคในการลดใช้พลังงานไฟฟ้าบ้าง อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัด ในส่วนของภาครัฐ ได้วางนโยบายเพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้อย่างยั่งยืน โดยจะเพิ่มขนาดของสายส่งให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 3 ปี”
สำหรับภาพรวมการบริหารจัดการกำจัดขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ตนั้น ปัจจุบันแบ่งการกำจัดออกเป็นการเผา และการฝังกลบ ซึ่งในปี 2558 มีขยะมูลฝอย 750 ตันต่อวัน คิดมูลค่ากำจัดมูลฝอย 520 บาทต่อตัน ปัจจุบัน มีอัตราเพิ่มของมูลฝอย ร้อยละ 7.3 ต่อปี ทั้งนี้ จากการกำจัดขยะโดยโรงเตาเผาขยะมูลฝอย 700 ตันต่อวัน สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้ 12 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง สามารถส่งออกไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ 72,000-79,200 เมกะวัตต์ต่อปี
ทั้งนี้ ภายหลังตรวจเยี่ยม และติดตามผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการขยะของศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชม และติดตามผลการดำเนินงานพลังงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงภูเก็ต 3 และระบบการควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตด้วย