กระบี่ - ปธ.สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มอบเกียรติบัตรยกย่อง นายชัช ฮีโร่ช่วยฝรั่งตกโคลนริมเขื่อนเจ้าฟ้า เขตเทศบาลเมืองกระบี่ เป็นบุคคลผู้กระทำความดี และคุณประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว
จากกรณีที่มีการแชร์คลิปวิดีโอ นายชัช อุบลจินดา อายุ 44 ปี ฮีโร่ชาวกระบี่ อยู่บ้านเลขที่ 44/30 ถนนคู่เมือง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เข้าช่วยเหลือ Mrs.Guo Yaxiang และ Mr.Arild Hagen สองสามีภรรยาชาวนอร์เวย์ที่กำลังจมในโคลนที่บริเวณริมเขื่อนปากแม่น้ำกระบี่ ถนนอุตรกิจ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยพยายามช่วยดึงแต่ไม่ขึ้น จึงต้องใช้วิธีให้ทั้ง 2 คน ขึ้นขี่บนหลังทีละคนแข่งกับน้ำที่กำลังขึ้น จนกระทั่งช่วยเหลือได้ปลอดภัยโดยไม่หวังผลตอบแทน สร้างความประทับใจแก่ชาวโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง และโด่งดังไปทั่วโลก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ต.ค.58 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (18 ต.ค.) นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกระบี่ และนายวัฒน เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้เดินทางไปที่บ้านพักของ นายชัช พร้อมกล่าวชื่นชมให้กำลังใจ และมอบเกียรติบัตรให้เพื่อแสดงการขอบคุณที่ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ และประเทศไทย ถึงแม้รู้ว่าตัวเองจะเจ็บก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสอบถามนายชัช ทราบว่า ขณะนี้เริ่มมีอาการเจ็บบริเวณหลัง คาดว่าเกิดจากการที่ให้นักท่องเที่ยวเหยียบหลังเพื่อพยุงตัวขึ้นจากโคลนเลน เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีน้ำหนักมากเป็น 100 กิโลกรัม ซึ่งได้เจ็บมาตั้งแต่วันแรก และเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าบริเวณที่ถูกเหยียบเริ่มอักเสบ แต่ก็ยังเดินไปมาได้ และจะรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการปวดต่อไป
ขณะที่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตรียมที่จะจัดหาเรือพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ให้แก่ นายชัช เพื่อใช้ออกหาปลามาเลี้ยงจุนเจือครอบครัว และว่าสาเหตุที่นักท่องเที่ยวจมโคลนนั้นคาดว่าเกิดจากลงไปถ่ายภาพปูปลาที่บริเวณชายเลนริมฝั่งปากแม่น้ำโดยไม่รู้ว่าบริเวณดังกล่าวเป็นโคลนลึก ประกอบกับผู้ชายรูปร่างอ้วนมีน้ำหนักมาก จึงจมโคลนโดยไม่รู้ตัว และไม่สามารถดึงตัวขึ้นมาได้ จนนายชัช มาช่วย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้ประชาสัมพันธ์เตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงไปเหยียบย่ำในบริเวณดังกล่าว และจะให้เจ้าหน้าที่นำป้ายเตือนมาติดตั้งไว้บริเวณจุดเสี่ยง ตั้งแต่หน้าโรงแรมเวียงทอง ไปจนถึงหน้าบริเวณประติมากรรมต้นไม้มะหาด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย และไม่แน่ใจว่าจะมีฮีโร่มาช่วยอีกหรือไม่
จากกรณีที่มีการแชร์คลิปวิดีโอ นายชัช อุบลจินดา อายุ 44 ปี ฮีโร่ชาวกระบี่ อยู่บ้านเลขที่ 44/30 ถนนคู่เมือง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เข้าช่วยเหลือ Mrs.Guo Yaxiang และ Mr.Arild Hagen สองสามีภรรยาชาวนอร์เวย์ที่กำลังจมในโคลนที่บริเวณริมเขื่อนปากแม่น้ำกระบี่ ถนนอุตรกิจ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยพยายามช่วยดึงแต่ไม่ขึ้น จึงต้องใช้วิธีให้ทั้ง 2 คน ขึ้นขี่บนหลังทีละคนแข่งกับน้ำที่กำลังขึ้น จนกระทั่งช่วยเหลือได้ปลอดภัยโดยไม่หวังผลตอบแทน สร้างความประทับใจแก่ชาวโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง และโด่งดังไปทั่วโลก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ต.ค.58 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (18 ต.ค.) นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกระบี่ และนายวัฒน เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ได้เดินทางไปที่บ้านพักของ นายชัช พร้อมกล่าวชื่นชมให้กำลังใจ และมอบเกียรติบัตรให้เพื่อแสดงการขอบคุณที่ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ และประเทศไทย ถึงแม้รู้ว่าตัวเองจะเจ็บก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสอบถามนายชัช ทราบว่า ขณะนี้เริ่มมีอาการเจ็บบริเวณหลัง คาดว่าเกิดจากการที่ให้นักท่องเที่ยวเหยียบหลังเพื่อพยุงตัวขึ้นจากโคลนเลน เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีน้ำหนักมากเป็น 100 กิโลกรัม ซึ่งได้เจ็บมาตั้งแต่วันแรก และเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าบริเวณที่ถูกเหยียบเริ่มอักเสบ แต่ก็ยังเดินไปมาได้ และจะรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการปวดต่อไป
ขณะที่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตรียมที่จะจัดหาเรือพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ให้แก่ นายชัช เพื่อใช้ออกหาปลามาเลี้ยงจุนเจือครอบครัว และว่าสาเหตุที่นักท่องเที่ยวจมโคลนนั้นคาดว่าเกิดจากลงไปถ่ายภาพปูปลาที่บริเวณชายเลนริมฝั่งปากแม่น้ำโดยไม่รู้ว่าบริเวณดังกล่าวเป็นโคลนลึก ประกอบกับผู้ชายรูปร่างอ้วนมีน้ำหนักมาก จึงจมโคลนโดยไม่รู้ตัว และไม่สามารถดึงตัวขึ้นมาได้ จนนายชัช มาช่วย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้ประชาสัมพันธ์เตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงไปเหยียบย่ำในบริเวณดังกล่าว และจะให้เจ้าหน้าที่นำป้ายเตือนมาติดตั้งไว้บริเวณจุดเสี่ยง ตั้งแต่หน้าโรงแรมเวียงทอง ไปจนถึงหน้าบริเวณประติมากรรมต้นไม้มะหาด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย และไม่แน่ใจว่าจะมีฮีโร่มาช่วยอีกหรือไม่