กระบี่ - ญาติผู้ป่วยที่เสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.กรุงเทพฯ ภูเก็ต เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดกลุ่มม็อบปิดถนน หลังทำให้เสียเวลาไม่ยอมให้รถพยาบาลนำคนป่วยไปส่ง บอกเป็นญาติใครก็เสียใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่บ้านเลขที่ 14 ม.10 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของนายเชียร ศรีชู อายุ 73 ปี ได้ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพ เป็นคืนที่ 4 หลัง นายเชียร เสียชีวิตระหว่างถูกนำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จ.ภูเก็ต แต่ระหว่างทางถูกกลุ่มม็อบที่ชุมนุมประท้วงที่ สภ.ถลาง ปิดถนนห้ามผ่าน เป็นเหตุทำให้ไปถึงโรงพยาบาลล่าช้ากว่ากำหนด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยทางญาติ คือ นางนาฑยา ศรีอินทร์ อายุ 35 ปี บุตรสาว และพี่น้องมีความเห็นตรงกันว่า หลังเสร็จงานศพก็จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
โดยนางนาฑยา กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุตนเดินทางไปพร้อมกับบิดาด้วย ตอนแรกบิดาของตนมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก จึงได้นำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งหมอกบอกว่าเส้นเลือดในหัวใจตีบ ต้องส่งไปขยายเส้นเลือด จึงได้ตัดสินใจพาไปที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต โดยรถของโรงพยาบาลออกจาก รพ.กระบี่ ช่วงดึกวันที่ 10 ต.ค.แต่ระหว่างทางพบกลุ่มม็อบที่กำลังชุมนุมกันอยู่ที่ทางแยกด้วยความบ้าคลั่ง ไม่สนใจว่าเป็นใคร รถอะไรก็ไม่ยอมให้ผ่าน
จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำทางอ้อมไปทางอื่น แต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมอีกจุดหนึ่งมาขวางทางไว้ กว่าจะผ่านไปได้แต่ต้องเสียเวลาไปประมาณ 20 นาที ช่วงนั้นตนเริ่มวิตกกังวลมากเนื่องจากบิดาเริ่มมีอาการหนักขึ้น ต้องปั๊มหัวใจตลอด ทำให้ต้องแวะที่ รพ.ถลางชั่วคราว ก่อนถึงโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และพ่อต้องมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากและเชื่อว่าสาเหตุที่ต้องล่าช้าส่วนหนึ่งสาเหตุจากถูกผู้ชุมนุมปิดกั้นถนน
นางนาฑยา กล่าวอีกว่าในเบื้องต้น สามีได้แจ้งไปยัง สภ.ถลาง ด้วยวาจาไปแล้วว่าจะดำเนินคดีต่อผู้ที่ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากเสร็จงานศพก็จะเดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางญาติไม่ติดใจเอาความนั้นไม่เป็นความจริง เพราะยังไม่ได้พูดกับใครเลย รวมทั้งที่ รพ.กระบี่ ชีวิตคนทั้งชีวิตใครบ้างจะไม่เสียใจ สาเหตุที่ไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากยุ่งกับงานศพบิดา ซึ่งพี่น้องทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า จะต้องมีผู้รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่บ้านเลขที่ 14 ม.10 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของนายเชียร ศรีชู อายุ 73 ปี ได้ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพ เป็นคืนที่ 4 หลัง นายเชียร เสียชีวิตระหว่างถูกนำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จ.ภูเก็ต แต่ระหว่างทางถูกกลุ่มม็อบที่ชุมนุมประท้วงที่ สภ.ถลาง ปิดถนนห้ามผ่าน เป็นเหตุทำให้ไปถึงโรงพยาบาลล่าช้ากว่ากำหนด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยทางญาติ คือ นางนาฑยา ศรีอินทร์ อายุ 35 ปี บุตรสาว และพี่น้องมีความเห็นตรงกันว่า หลังเสร็จงานศพก็จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
โดยนางนาฑยา กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุตนเดินทางไปพร้อมกับบิดาด้วย ตอนแรกบิดาของตนมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก จึงได้นำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งหมอกบอกว่าเส้นเลือดในหัวใจตีบ ต้องส่งไปขยายเส้นเลือด จึงได้ตัดสินใจพาไปที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต โดยรถของโรงพยาบาลออกจาก รพ.กระบี่ ช่วงดึกวันที่ 10 ต.ค.แต่ระหว่างทางพบกลุ่มม็อบที่กำลังชุมนุมกันอยู่ที่ทางแยกด้วยความบ้าคลั่ง ไม่สนใจว่าเป็นใคร รถอะไรก็ไม่ยอมให้ผ่าน
จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำทางอ้อมไปทางอื่น แต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมอีกจุดหนึ่งมาขวางทางไว้ กว่าจะผ่านไปได้แต่ต้องเสียเวลาไปประมาณ 20 นาที ช่วงนั้นตนเริ่มวิตกกังวลมากเนื่องจากบิดาเริ่มมีอาการหนักขึ้น ต้องปั๊มหัวใจตลอด ทำให้ต้องแวะที่ รพ.ถลางชั่วคราว ก่อนถึงโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และพ่อต้องมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากและเชื่อว่าสาเหตุที่ต้องล่าช้าส่วนหนึ่งสาเหตุจากถูกผู้ชุมนุมปิดกั้นถนน
นางนาฑยา กล่าวอีกว่าในเบื้องต้น สามีได้แจ้งไปยัง สภ.ถลาง ด้วยวาจาไปแล้วว่าจะดำเนินคดีต่อผู้ที่ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากเสร็จงานศพก็จะเดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางญาติไม่ติดใจเอาความนั้นไม่เป็นความจริง เพราะยังไม่ได้พูดกับใครเลย รวมทั้งที่ รพ.กระบี่ ชีวิตคนทั้งชีวิตใครบ้างจะไม่เสียใจ สาเหตุที่ไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากยุ่งกับงานศพบิดา ซึ่งพี่น้องทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า จะต้องมีผู้รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น