โดย..ดิเรก เหมนคร ผู้ประสานงานเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน
สืบเนื่องจากกรณีที่ กฟผ.นำเรือเข้าขุดสำรวจพื้นทะเลบริเวณชายฝั่ง ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา บริเวณที่จะใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างท่าเรือขนถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ซึ่งการสำรวจดังกล่าวไม่มีการแจ้งชาวบ้านทราบมาก่อน และได้ถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง
วานนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินจำนวนมากกว่า 100 คน ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา 2 เรื่อง คือ 1.เพื่อขอทราบข้อมูลและเอกสารเกี่ยวกับการขอใช้ประโยชน์และการขอถอนสภาพที่สาธารณประโยชน์เพื่อประกอบกิจการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกระบวนการขั้นตอนการดำเนินงาน และ 2.ขอทราบเกี่ยวกับการอนุญาตและคำสั่งเกี่ยวกับการขออนุญาตการขุดเจาะดินชายฝั่งทะเล และมาตรการการเยียวยาความเสียหาย
หลังจากนั้น ทางศาลากลางจังหวัดได้อำนวยความสะดวกโดยติดต่อประสานงานถึงสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลาให้มาชี้แจงต่อทางเครือข่ายฯ ที่ศาลากลางจังหวัด แต่ปรากฏว่า ทางสำนักงานเจ้าท่า ได้ตอบต่อเจ้าหน้าที่ศาลากลางว่า ผู้อำนวยการสำนักเจ้าท่าเดินทางไปกรุงเทพฯ ทำให้ทางเครือข่ายฯ ไม่พอใจเป็นอย่างมากถึงสัญญาที่ทางเจ้าท่าได้ให้ไว้เมื่อวันที่ 12 ต.ค.58 ว่าจะมาชี้แจง แถลงข่าว แต่กลับผิดสัญญา
ทางเครือข่ายฯ จึงกดดัน และไม่ยอมกลับ ทำให้เจ้าหน้าที่ศาลากลางต้องเร่งประสานโดยด่วนและให้ผู้อำนวยการเจ้าท่ามาให้คำตอบต่อทางเครือข่าย จนเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น นายฐาปกรณ์ บุญเกิด ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา ได้เดินทางมาถึงศาลากลางจังหวัดสงขลา แต่ปรากฏว่า ได้เดินผ่านชาวบ้าน และไม่มีการทักทายใดๆ เข้าไปยังศาลากลางและนั่งคุยกับคนบางคน และโทรศัพท์ ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า เป็นคนของ กฟผ. ซึ่งใช้เวลานานมากจนชาวบ้านกดดันให้ ผอ.เจ้าท่าออกมาชี้แจงต่อชาวบ้านที่รอคำตอบมาเป็นเวลานานแล้ว
ขณะเดียวกัน ก็มีเจ้าหน้าที่ศาลากลางบางคนยั่วยุชาวบ้านถึงจำนวนคนที่มาจำนวนเล็กน้อย ยิ่งสร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทำให้ชาวบ้านเข้าไปยังตัวอาคารของศาลากลางเพื่อกดดันให้ ผอ. เจ้าท่า รีบออกมาชี้แจง และหลังจากที่ ผอ.เจ้าท่าออกมาก็ได้ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง จนถึง 5 โมงเย็นในการบ่ายเบี่ยงคำตอบของชาวบ้านที่ถามว่าเรือที่ขุดเจาะมีใบอนุญาตไหม สั่งระงับได้ไหม ผอ.เจ้าท่า ตอบว่า หน่วยงานตนเองไม่มีอำนาจในการระงับการขุดเจาะเรือของ กฟผ. และไม่มีเจ้าหน้าที่ที่จะไปตรวจสอบ ชาวบ้านไม่ยอม ต้องการให้หน่วยงานเจ้าท่าไปตรวจสอบ ผอ.เจ้าท่า จึงบอกว่าจะไปตรวจสอบวันพฤหัสนี้ แต่ชาวบ้านไม่ยอม และถามว่า
“ต้องการยื้อเวลาให้เรือของ กฟผ.ขุดเจาะให้เสร็จใช่ไหม เมื่อถึงเวลาไปตรวจเรือนั้นก็หายไปแล้ว”
ชาวบ้านจึงเสนอให้ ผอ.เจ้าท่า ไปตรวจสอบในวันนี้ ซึ่ง ผอ.เจ้าท่าก็รับที่จะตรวจสอบในวันพุธนี้ (14 ต.ค.) อนึ่ง ทางสำนักเจ้าท่าฯ ได้ให้คำตอบต่อทางเครือข่ายเป็นลายลักษณ์อักษรจากที่ได้ยื่นหนังสือขอข้อมูลไป 8 ข้อ เมื่อวันจันทร์ที่ 12 ต.ค.58 ซึ่งได้คำตอบกับทางสำนักเจ้าท่าฯ โดยมีเนื้อความดังนี้
“ตามที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา ได้รับหนังสือจากเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำเนินการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่นำเรือมาทำการขุดเจาะดินที่ในทะเล และชายหาด ว่าได้ยื่นเอกสารขออนุญาตต่อสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา หรือกรมเจ้าท่าหรือไม่
ในเบื้องต้น สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลาได้ตรวจสอบเอกสารการยื่นขออนุญาต ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลาแล้ว ไม่ปรากฏพบว่า มีการยื่นเรื่องดังกล่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา จึงได้มีหนังสือแจ้งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ชี้แจงการขออนุญาต ขั้นตอน หรือรายละเอียดของโครงการดังกล่าว
ในการนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา ได้สั่งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ระงับการดำเนินการของเรือขุดเจาะเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้ชี้แจงรายละเอียดของโครงการ เพื่อที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา จะได้นำไปชี้แจงต่อเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน เนื่องจากเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งแจ้งว่า ไม่เคยทราบข้อมูล และไม่เคยมีหน่วยงาน หรือบริษัทใดมาชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใด
อนึ่ง ในประเด็นของการกำหนดมาตรการแนวทางในการเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ได้รับความเดือดร้อน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา ได้แจ้งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทราบแล้ว จึงขอให้เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ประสานข้อเรียกร้องเรื่องการเยียวยาของผู้ได้รับผลกระทบต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต่อไป”