ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านใน อ.เทพา จ.สงขลา นำเรือไปปิดล้อมเรือขุดสำรวจพื้นดินใต้ทะเลของ กฟผ.ในบริเวณที่จะมีการก่อสร้างท่าเรือขนถ่านหิน ถามก่อนขุดได้สอบถามความคิดเห็นชาวบ้านในพื้นที่หรือยัง ขู่กดดันจนกว่า กฟผ.จะชี้แจง
วันนี้ (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้นำเรือประมงไปปิดล้อมเรือขุดเจาะสำรวจพื้นทะเลบริเวณที่กำหนดให้เป็นท่าเทียบเรือขนถ่านหิน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.บริเวณชายฝั่ง ต.ปากน้ำ อ.เทพา โดยชาวบ้านระบุว่า การขุดเจาะดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออาชีพการทำประมงชายฝั่ง และเคยมีการเจรจากันมาแล้วก่อนหน้านี้
โดนชาวบ้านได้ระบุในแถลงการณ์ว่า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้นำเรือแพขนาดใหญ่เข้ามาเจาะดินตามชายฝั่ง และในทะเลบริเวณ อ.เทพา จ.สงขลา นั้นได้สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้แก่พี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงใน อ.จะนะ อ.เทพา จ.สงขลา และ อ.หนอกจิก จ.ปัตตานี จำนวนหลายร้อยลำ เพราะการขุดเจาะดินดังกล่าวได้ขุดเจาะในพื้นที่ที่มีกุ้งหอยปูปลาชุกชุม และเป็นบริเวณที่มีปะการังแท้ที่สมบูรณ์ และยังเป็นแนวปะการังเทียมอีกด้วย ซึ่งการขุดเจาะดินดังกล่าวทำให้เกิดตะกอนน้ำขุ่น เกิดเสียง และแรงสั่นสะเทือน ทำให้กุ้งหอยปูปลาไม่มาอาศัยอยู่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของชาวประมงอย่างหนัก และยิ่งกังวลใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการที่ กฟผ.จะมาก่อสร้างท่าเทียบเรือขนถ่านหินซึ่งนั่นหมายถึงการทำลายที่ทำมาหากินของเขาตลอดไป
ด้วยเหตุนี้ ทางเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน จำนวนประมาณ 200 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายอำเภอเทพา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 โดยมีปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันกับประมงอำเภอเทพาเป็นผู้มารับหนังสือ และได้ชี้แจงด้วยวาจาต่อหน้าเครือข่ายฯ โดยมีข้อสรุปว่า ทางอำเภอไม่มีอำนาจที่จะสั่งระงับการขุดเจาะในทะเลของเรือดังกล่าวได้ และไม่มีอำนาจนำเรือดังกล่าวกลับเข้าฝั่งได้เช่นกัน แต่ผู้มีอำนาจคือเจ้าของเรือนั่นก็คือ กฟผ.เท่านั้น
ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ ได้ขอให้ปลัดอำเภอ และประมงอำเภอเทพาช่วยประสาน กฟผ.ให้มาชี้แจงต่อเครือข่ายฯ และประชาชนทั้งหมดในวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 เวลา 14.00 น. ณ อาคารอเนกประสงค์ หมู่ 7 บ้านปากน้ำเทพา ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อถึงกำหนดเวลาดังกล่าว ทางเครือข่ายฯ ประมาณ 500 กว่าคน ได้มารับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ กฟผ. นายอัฐพล มหาโยธี หัวหน้าแผนกธรณีวิศวกรรม ในประเด็นว่าการขุดเจาะดินตามชายฝั่ง และในทะเลที่สร้างความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนดังกล่าวได้ขออนุมัติอนุญาตหรือไม่อย่างไร
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ กฟผ.ดังกล่าวได้ตอบว่า ได้ขออนุมัติขุดเจาะดินแล้วจากประมงอำเภอเทพาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางประมงอำเภอเทพา กลับตอบปฏิเสธว่า ทาง กฟผ.ไม่ได้ขออนุมัติการขุดเจาะต่อประมงอำเภอแต่อย่างใด เพียงแต่มีหนังสือชี้แจง และขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกในการขุดเจาะดินเท่านั้นเอง ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ จึงได้ถามต่อเจ้าหน้าที่ กฟผ.ว่า ตกลงว่าได้ขออนุมัติการขุดเจาะต่อหน่วยงานใดบ้าง เจ้าหน้าที่ กฟผ. ตอบว่า ไม่รู้เหมือนกัน เป็นแค่เจ้าหน้าที่ขุดเจาะดินเท่านั้น เขาสั่งให้ไปเจาะก็ไปเจาะเท่านั้น เรื่องนี้ให้คุยกับ นายวีระชัย ยอดเพชร กับนายธรรมยุทธ สุทธิวิชา มาบัดนี้ทั้ง 2 คนที่ถูกเอ่ยชื่อก็ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงการชอบใช้อำเภอโดยไม่ชอบธรรม คุกคาม และละเมิดสิทธิของชุมชนมาโดยตลอด นับตั้งแต่การจัดเวที ค. 1 ค.2 และ ค.3
ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ จึงขอประณามพฤติกรรมดังกล่าว และขอเรียกร้องให้ กฟผ.ออกมาชี้แจงแสดงความรับผิดชอบ และแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทางเครือข่ายฯ ขอชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนในจังหวัดสงขลา ปัตตานี และคนไทย ว่า การออกมาชุมนุมเรียกร้องในครั้งนี้เพราะต้องการปกปักรักษาทะเลเทพา-จะนะ-ปัตตานี ที่เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สมบูรณ์ของคนสงขลา-ปัตตานี และคนไทยทุกคน เพราะหากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และโครงการท่าเทียบเรือขนถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้า จะทำให้ทะเลปนเปื้อนสารพิษ อุณหภูมิของน้ำสูงขึ้น และมีการกัดเซาะชายฝั่งเทพาอย่างรุนแรง ซึ่งจะไม่สามารถประกอบอาชีพประมงได้อีกตลอดไป
ทางเครือข่ายฯ ขอประกาศว่า จะยืนหยัดที่จะร่วมกับพี่น้องประชาชนในจังหวัดสงขลา-ปัตตานี และคนไทยในการปกปักรักษาทรัพยากรอันมีค่าในแผ่นดินตลอดไป