“น้ำท่าสมบูรณ์” เกษตรฯ ชาวตรังหันปลูกข้าวลดค่าใช้จ่ายหลังราคายาง-ปาล์มตก

 
ตรัง - เกษตรกรผู้ทำนา จ.ตรัง อาศัยน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ในช่วงนี้ลงนาหว่านกล้า และปักดำเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน หลังราคายางพารา และปาล์มน้ำมันตกต่ำ

วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ทำนาปีใน ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง อาศัยฝนฟ้าที่ตกหนักในช่วงนี้หันมาปลูกข้าวเพื่อบริโภคในครัวเรือนกันมากกว่า 1 เท่าตัว จากเดิมเคยทำนาประมาณ 1,200 ไร่ เพิ่มขึ้นเป็น 2,800 ไร่ ส่วนใหญ่เนื่องมาจากปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรทั้งยางพารา และปาล์มน้ำมันตกต่ำลง ทำให้รายได้ไม่พอต่อร่ายจ่าย เกษตรกรจึงหันมาพลิกพื้นที่นาที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายปี มาทำนาใหม่อีกครั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

ซึ่งปีนี้มีเกษตรกรหลายรายที่ไม่มีที่นาเป็นของตนเอง ใช้วิธีเช่าที่ทำนาของเพื่อนบ้าน ขณะที่เกษตรกรอีกหลายรายขอใช้ที่นารกร้างว่างเปล่า และยอมแบ่งข้าวให้แก่เจ้าของที่นาคนละครึ่ง ซึ่งแม้ปีนี้จะมีพื้นที่ปลูกข้าวใน อ.นาโยง มากกว่า 2,800 ไร่ แต่ค่าจ้างแรงงานในการปักดำวันละ 500 บาทต่อคน รวมทั้งค่ารถไถนา และค่าจ้างเกี่ยวข้าว ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมีหนูมากัดกินต้นกล้าทำให้ได้รับความเสียหายเป็นประจำทุกปี แต่ชาวนาต่างหวังว่าผลผลิตที่ได้จะเพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน ส่วนที่เหลือจะแบ่งขายให้แก่ชุมชน

ซึ่ง นางแววตา นวลแก้ว อายุ 50 ปี ชาวนา ม.8 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง กล่าวว่า การทำนาในปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังหวังว่ารัฐบาลจะมีเงินมาช่วยอุดหนุนชาวนา ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านหันมาทำนากันมากขึ้นเพราะมีปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่ทำนาเพื่อไว้บริโภคในครัวเรือน ส่วนที่เหลือจะแบ่งขายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว

ด้าน นายชลินทร์ ประพฤติตรง เกษตร จ.ตรัง เปิดเผยว่า ปีนี้ที่ จ.ตรัง มีเกษตรกรทำนาข้าวจำนวน 12,928 ไร่ โดยทำนาที่ อ.นาโยง มากที่สุด ใน 10 อำเภอ คือ 6,324 ไร่ และที่ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง ทำนามากที่สุดคือ 2,800 ไร่ รองลงมาคือ ที่ ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง ทำนา 2,080 ไร่