นราธิวาส - ผู้ว่าฯ นราธิวาส แถลงผลงานรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ดำเนินการตามนโยบาย และข้อสั่งการของ คสช.และที่เกี่ยวข้อง มุ่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดี และสังคมมีความสุข แก้ไขปัญหาความไม่สงบ
วันนี้ (14 ก.ย.) นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส แถลงผลงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ดำเนินการตามนโยบาย และข้อสั่งการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. นโยบายรัฐบาล 11 ด้าน ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และนโยบายกระทรวงมหาดไทย ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีคณะรองผู้ว่าฯ นราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
ผู้ว่าฯ นราธิวาส กล่าวว่า การดำเนินงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทำให้การทำงานราบรื่น มีเอกภาพ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และสังคมมีความสุข แก้ไขปัญหาความไม่สงบ ในส่วนของการทำงานเพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คืนความสุขให้คนในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเรื่องความมั่นคง ด้านการเยียวยาใช้รูปแบบ One stop service ทำให้ดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบร่างกาย และชีวิต สามารถช่วยเหลือได้ทันที
ขณะที่ความต้องการของพี่น้องประชาชนเรื่องถนนที่ผ่านมาไม่เคยได้รับ แต่ภายใต้การนำของรัฐบาลชุดนี้ ที่เป็นธรรม ทั่วถึง เท่าเทียม ก็เกิดผลสำเร็จขึ้น และเป็นปีแรกที่จังหวัดบูรณาการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนการทำถนน และการบริหารจัดการน้ำ เช่น พื้นที่ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ ซึ่งมีปัญหามากว่า 10 ปี ก็ได้น้อมนำโครงการพระราชดำริมาใช้เพื่อแก้ปัญหา อีกทั้งได้ดำเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจโดยใช้หลักศาสนา
สำหรับในประเด็นมั่งคั่ง ได้เตรียมการรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ การแก้ไขปัญหาผลไม้ เป็นต้น และเรื่องความยั่งยืน ได้น้อมนำ และสนองงานโครงการพระราชดำริต่างๆ ทั้งการพัฒนา และขยายผลโครงการฯ เช่น การแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานเพื่อช่วยเหลือเกษตรผู้ประสบอุทกภัย การดำเนินงานด้านสุขภาพตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นอกจากนี้ มีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง บ้านบาเฆะ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ให้มีที่อยู่ใหม่ พร้อมกับมีพื้นที่ส่วนกลางเพื่อให้มีการฝึกอาชีพ และมีรายได้เสริมในช่วงมรสุม และการแก้ไขปัญหาการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินบริเวณพื้นที่นอกเขตอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ที่หยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งขณะนี้ได้รับจัดสรรงบประมาณ และศูนย์เดินสำรวจฯ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ผลการดำเนินการ 2,249 แปลง แจกโฉนดที่ดินให้ประชาชนแล้วทั้งสิ้น 1,081 แปลง