ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สำนักทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา ลงมือทำเขื่อนหินกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ระยะทาง 500 เมตร ต่อจากเขื่อนเดิม ป้องกันถนนเลียบชายทะเล หมายเลข สข.2004 ของกรมทางหลวงชนบทสายสงขลา-นาทับ ให้แล้วเสร็จก่อนเข้าฤดูมรสุมปีนี้
วันนี้ (21 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณถนนเลียบชายทะเล หมายเลข สข.2004 ของกรมทางหลวงชนบทสายสงขลา-นาทับ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ขณะนี้ได้เริ่มลงมือก่อสร้างเขื่อนหินป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง รวมทั้งป้องกันถนนเลียบชายทะเล หมายเลข สข.2004 บริเวณหลัก กม.ที่ 32 ระยะทาง 500 เมตร ต่อจากเขื่อนเดิมที่มีการก่อสร้างไปแล้ว โดยนำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่เข้ามาดำเนินการปรับสภาพบริเวณชายหาด เพื่อให้รถบรรทุกหินสามารถนำหินขนาดใหญ่มาลงบริเวณชายหาดได้ พร้อมนำดินลูกรังมาทำเป็นถนนแนวเขื่อนให้รถบรรทุกลงไปถึงชายหาด และใช้รถแบ็กโฮขุดแนวชายหาดให้ลึก 2 เมตร ฝังก้อนหินลงไปเพื่อทำฐานเขื่อนให้มีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรับแรงต้านทานของความแรงของคลื่นในช่วงฤดูมรสุมได้ เนื่องจากบริเวณนี้จะมีคลื่นรุนแรงมาก ในการก่อสร้างเขื่อนหินป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จประมาณกลางเดือนตุลาคม 2558 ก่อนเข้าฤดูมรสุมปีนี้
ในส่วนของก้อนหินขนาดใหญ่ได้มีการนำมากองไว้ตลอดแนวถนนที่จะทำการก่อสร้างเขื่อนไว้แล้ว ในขณะก่อสร้างจะดำเนินการไปโดยไม่ขาดแคลนหินขนาดใหญ่ และสามารถก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่องทันที สำนักทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา ได้รับงบประมาณ 15 ล้านบาท จากกรมทางหลวงชนบท ก่อสร้างเขื่อนหินกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ระยะทาง 500 เมตร และซ่อมเขื่อนหินที่ถูกคลื่นลมแรงซัดพังเสียหายหลายจุดในช่วงมรสุมปีที่ผ่านมา ตลอดเส้นทางถนนเลียบชายทะเล ตั้งแต่บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ถึงบ้านปึก ต.นาทับ อ.จะนะ โดยครอบคลุมไปถึงอาคารบำบัดน้ำเสียของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนั้นเช่นเดียวกัน