ชาวกระบี่ร้อง ปภ.ตัดต้นไม้ขุดลอกสระน้ำหลังวัดแก้วโกรวาราม

กระบี่ - ชาวบ้านกระบี่ร้องเรียนโครงการขุดลอกสระน้ำหลังวัดแก้วโกรวาราม พระอารามหลวง ทำลายต้นไม้ ปภ.แจงเอาต้นไม้เท่าที่จำเป็น

วันนี้ (11 ก.ย.) ได้มีการเผยแพร่ภาพการล้มต้นไม้ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อขุดสระน้ำภายในวัดแก้วโกรวาราม พระอารามหลวง เขตเทศบาลเมืองกระบี่ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีต้นไม้ใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นป่าผืนเดียวที่อยู่กลางเมืองกระบี่ จากการลงสำรวจพื้นที่พบว่า บริเวณดังกล่าวพบมีป้ายข้อความขนาดใหญ่ได้ถูกนำมาติดตั้งที่บริเวณข้างสระน้ำ โดยข้อความระบุว่า เป็นโครงการขุดลอกสระน้ำสวนพุทธธรรม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย งบประมาณ 1,502,040.34 บาท

นอกจากนี้ บริเวณสระน้ำขนาดกว้างประมาณ 60x80 เมตร พบรถแบ็กโฮกำลังปรับพื้นที่รอบๆ สระ และพบร่องรอยล้มต้นไม้ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ประมาณ 10 ต้น โดยมีคนงานกำลังใช้เครื่องเลื่อยตัดต้นไม้ที่ล้มออกเป็นท่อนๆ มากองไว้ริมสระน้ำ

ขณะเดียวกัน นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ ได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่พร้อมชี้แจงว่า โครงการขุดลอกสระน้ำสวนพุทธธรรม ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีคำสั่งให้มีการขุดลอกสระน้ำทั่วประเทศเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง โดยทางคนของกรมฯ ได้เข้ามาติดต่อกับทางเทศบาลเมืองประมาณ 3 เดือนที่แล้ว โดยมีงบประมาณ 4.9 ล้านบาท จึงเสนอให้ขุดลอกสระน้ำหลังวัดแก้วฯ และได้แจ้งแล้วว่าให้เว้นต้นไม้ใหญ่ไว้

แต่พอถึงเวลาดำเนินการคนของกรมไม่ได้จ้างเอกชนมาออกแบบ จากนั้นก็ให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำ โดยที่ทางเทศบาลไม่ได้รับทราบเรื่อง และทราบว่าใช้งบประมาณไปเพียง 1.5 ล้านบาทเศษ แต่ที่ทำให้เกิดปัญหาคือ มีการล้มต้นไม้ จึงได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่เนื่องจากมีการล้มต้นไม้ใหญ่ จึงได้สั่งให้ระงับ และให้ตัดปลายไม้ที่ล้มแล้วมาปลูกใหม่ ส่วนต้นไม้ที่ปลูกใหม่ไม่ได้ก็ให้ตัดเป็นท่อนๆ แล้วไปมอบให้ทางวัดใช้ประโยชน์ต่อไป

ด้าน นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับโครงการขุดลอกสระน้ำดังกล่าวเป็นโครงการของกรมฯ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง เดิมทีมีการประเมินราคาการขุดลอกไว้ประมาณ 4.5 ล้านบาท แต่เห็นว่ามีผลกระทบต่อต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ริมสระ จึงได้ปรับแบบให้เล็กลงเพื่อไม่กระทบต่อต้นไม้ เหลืองบก่อสร้างประมาณ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น เมื่อทางกรมอนุมัติงบก็ได้ดำเนินการ และเกิดปัญหาการร้องเรียนขึ้น

สำหรับต้นไม้ที่ต้องล้มทิ้งเนื่องจากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แล้ว และได้แจ้งให้ทางวัดทราบและนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นตามความเหมาะสม ส่วนต้นไหนที่ย้ายปลูกได้ก็ได้มีการย้ายไปปลูกที่ใหม่ทดแทน โดยได้กำชับให้ระมัดระวังการตัดทำลายต้นไม้ ให้ทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น