ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการค้านรื้อถอนต้นไม้ใหญ่ปรับภูมิทัศน์ชายหาดจอมเทียน หลังร่วมใจกันปลูกนานกว่า 30 ปี สร้างร่มเงาให้นักท่องเที่ยว หวั่นกระทบต่อการท่องเที่ยวในอนาคต
จากกรณีที่เมืองพัทยา ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหลายร้อยล้านบาทเพื่อดำเนินจัดทำโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ด้วยหวังจะเป็นการฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไปสู่ระดับนานาชาติ แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมา แผนงานในโครงการดังกล่าวนอกจากจะมีการปรับสภาพพื้นที่ชายหาดด้วยการเทคอนกรีต พร้อมปูพื้นสำเร็จเพื่อทำทางเท้าสาธารณะ และการปลูกไม้ยืนต้นบางส่วนตลอดแนวในระยะทางยาวกว่า 5 กม.แล้ว
ยังได้ดำเนินการขุดถอนต้นไม้ขนาดใหญ่ อายุประมาณ 30-40 ปี เช่น ต้นหูกวาง และต้นสน ออกจากแนวชายหาดบางส่วน ซึ่งกรณีดังกล่าวมีผู้ประกอบการ และประชาชนบางส่วนออกมาติติงว่าการรื้อถอนต้นไม้ขนาดใหญ่ออกจากแนวชายหาดนั้นถือเป็นสิ่งไม่สมควร เนื่องจากเป็นไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้เพื่อสร้างร่มเงาให้แก่นักท่องเที่ยว และถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะต้นไม้เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการยึดหน้าดิน และชายหาดไว้จากปัญหาการกัดเซาะที่ลุกลามอยู่ในปัจจุบัน
ล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาด และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเล บริเวณปากซอยจอมเทียน 8-9 กว่า 20 ราย รวมตัวกันเรียกร้องปัญหาดังกล่าวผ่านสื่อมวลชน โดยระบุว่า โครงการที่จัดทำนั้นถือว่าเป็นโครงการทีมีประโยชน์ แต่การรื้อถอนต้นไม้ขนาดใหญ่ออกจากแนวชายหาดนั้น ไม่เกิดผลดีต่อสภาพภูมิทัศน์ และการท่องเที่ยว โดยร้องขอให้ยุติแผนการรื้อถอนดังกล่าว
นางนฤมล ไชยสิทธิ์ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการระบุว่า ต้นไม้เหล่านี้ผู้ประกอบการรุ่นดั้งเดิมปลูกไว้นานกว่า 30-40 ปี ด้วยหวังใช้เป็นร่มเงาสร้างความร่มรื่นตลอดแนวชายหาดให้แก่นักท่องเที่ยวจนถือเป็นเอกลักษณ์ สำหรับโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดที่ทำอยู่ถือว่าเป็นโครงการที่ดี แต่ไม่เคยสอบถามความคิดเห็น และชี้แจงรายละเอียดแต่อย่างใด อยู่ๆ ก็ลงมาทำ และมีการตัดต้นไม้ใหญ่ออกไปแล้วบางส่วน ซึ่งรู้สึกวิตกอย่างมาก
เนื่องจากต้นไม้เหล่านี้นอกจากสร้างร่มเงาแล้ว ยังถือเป็นส่วนสำคัญที่ยึดหน้าดิน และชายหาดไม่ให้ถูกกัดเซาะไปด้วย อย่างไรก็ตาม อยากวิงวอนให้เมืองพัทยา ทบทวนแผนการรื้อถอนต้นไม้เหล่านี้ออกไป โดยพิจารณาการปรับภูมิทัศน์ให้ควบคู่ไปกับการคงไว้ของต้นไม้เหล่านี้ด้วย ก่อนจะเกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในอนาคต