กระบี่ - เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จ.กระบี่ สนธิกำลังยึดคืนพื้นที่ป่าโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หลังมีการบุกรุกปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่กว่า 400 ไร่
เมื่อเวลา 13.00 น วันนี้ (7 ก.ย.) ร.ต.ท.วสันต์ รัตนจินดา รอง สวป.กก.5 บก.ปทส. พร้อมด้วย นายสุวัฒน์ สุขสิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล นายสุคนธ์ บัวกิ่ง หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหาราบที่ 15 พร้อมเจ้าหน้าที่รวมกว่า 50 นาย ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าในเขตโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ม.3 ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีการบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าปลูกปาล์มน้ำมันจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่า มีการล้อมรั้วลวดหนามโดยรอบ ภายในมีการปลูกต้นปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 4 ปี กว่า 100 ต้น และมีการล้อมไม้รอบโคนต้น และนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พบมีการกรานโค่นต้นเสม็ดขาวแล้วราดยาฆ่าตอให้ยืนต้นตายจำนวนมาก และพบขวดพลาสติก คาดว่าเป็นขวดบรรจุยาฆ่าตอจำนวนหนึ่งถูกทิ้งไว้ และพบป้ายประกาศยึดพื้นที่ 2 ป้าย กองบนพื้นดิน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดพื้นที่นั้น ได้มีนาศรุต ขาวแดง อายุ 56 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวได้เข้าไปในพื้นที่ด้วย พร้อมกล่าวว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวอยู่นอกเขตโครงการฟื้นฟูป่าทุ่งทะเลฯ เนื่องจากได้มีการกันพื้นที่ไว้แล้ว โดยมีชาวบ้าน จำนวน 21 ราย รวม 27 แปลง เนื้อที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเตรียมออก ส.ป.ก.ให้ชาวบ้าน แต่ก็ได้มีการยกเลิกไปแล้ว ชาวบ้าน 21 ราย จึงได้ทำหนังสือคัดค้านเพื่อขอที่ดินทำกิน แต่ก็อยู่ระหว่างดำเนินการ
ด้าน นายสุวัฒน์ สุขสิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตโครงการฟื้นฟูป่าทุ่งทะเลฯ รวมเนื้อที่กว่า 7,000 ไร่ อยู่ในความดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล และหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.9 ซึ่งที่ผ่านมา มีชาวบ้านการบุกรุกพื้นที่เพื่อครอบครอง จำนวน 400 กว่าไร่ โดยการอ้างว่าจะมีการออก ส.ป.ก. แต่ถูกยกเลิกไปแล้วเพราะสภาพพื้นที่ไม่เหมาะเป็นที่ดินทำกิน จึงจำเป็นต้องดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านมาอ้างสิทธิครอบครองก็ต้องมีเอกสารหลักฐานมาแสดง หรือหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
