ตรัง - ว่านเพชรหึง กล้วยไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกำลังพร้อมใจกันออกดอกที่สวยงามกว่าพันต้น เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวไปชม และถ่ายภาพ เผยแต่ละปีจะได้ยลโฉมเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น
ว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง กล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 1,200 ต้น ภายในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร หรือศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรัง กำลังพร้อมใจกันออกดอกให้ชมความสวยงามเป็นระยะเวลาเพียงแค่ปีละ 3 เดือนเท่านั้น หลังจากที่ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง ได้ขยายต้นกล้าว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไปแล้ว 2-4 หมื่นต้น เพื่อหวังจะให้ประชาชนนำไปปลูกเพื่อตัดดอกขายเชิงการค้า รวมทั้งปลูกในสถานที่ต่างๆ เพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากเวลาออกดอกพร้อมกันแล้วจะสวยงามมาก
นายเสนอ รัตนสำเนียง ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตรัง กล่าวว่า ว่านเพชรหึง หรือที่ชาวปักษ์ใต้รู้จักกันในชื่อว่า ว่านหางช้าง เพราะมีลักษณะลำต้นที่ยาว และมีใบติดอยู่ที่ปลายหลายใบ คล้ายๆ กับปลายหางของช้างที่ชี้ขึ้นด้านบน โดยมีลักษณะเด่นคือ รากมีจำนวนมากเกาะแน่น และแตกเป็นแขนงที่ปลายราก จนถือเป็นกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก จัดอยู่ในสกุลแกรมมาโทฟิลลัม (Grammatophyllum) เป็นกล้วยไม้ประเภทแตกกอ มีระบบรากอากาศ และมีลำต้นสูง ส่วนดอกก็จะมีทั้งชนิดช่อตั้ง และช่อห้อย โดยกลีบดอกนั้นจะหนา มีพื้นกลีบสีเหลือง หรือเหลืองอมเขียว และยังมีแต้มสีน้ำตาลหรือม่วง คล้ายกับลวดลายของเสือ ซึ่งจะมีดอกประมาณช่อละ 75-125 ดอก
ทั้งนี้ นอกจากศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรัง จะดำเนินการเพาะขยายพันธุ์ ว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง แล้ว ยังได้มีการปลูกไว้กระจายเรียงรายสองข้างทางเป็นจำนวนมากถึง 1,200 ต้น โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าสำนักงาน และศูนย์ฝึกอบรม กระทั่งปัจจุบันแต่ละต้นมีอายุตั้งแต่ 5-10 ปีแล้ว จนถือเป็นแหล่งรวบรวมกล้วยไม้พันธุ์นี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมักจะออกดอกในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม-กันยายน ของทุกปี เพียงแต่จะกล้วยไม้จะต้องมีอายุ 5 ปีขึ้นไป ถึงจะออกดอกให้ชมความสวยงามได้ ทั้งนี้ ดอกจะทยอยบานตั้งแต่ชั้นล่างสุดไปจนถึงชั้นบนสุด เป็นระยะเวลาเพียงปีละแค่ 3 เดือน หลังจากนั้นจะต้องรอชมความงามอีกครั้งในปีถัดไป
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถมาชมหรือถ่ายภาพว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง ภายในศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรังได้ฟรี ในวันเวลาราชการ ซึ่งนับเป็นแหล่งรวมรวมพันธุ์ไม้ชนิดนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และกำลังสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ของจังหวัดตรัง โดยตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 11 เขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ หรือเข้ามาทางสำนักงานแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดตรัง และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-7558-2312