ชุมพร - ชาวบ้านร้องสภาทนายความ มีหมายศาลฟ้องเป็นจำเลยความผิดคดีอาญาร่วมกับบริษัทเอกชน ทั้งๆ ที่ไม่รู้จัก ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยทำนิติกรรมใดๆ เลย
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (7 ส.ค.) ที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นางยุพิน เรืองศรี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 5 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน พร้อมด้วยชาวบ้านอีก 5 คน เข้าพบ นายปรีชา บุตรจันทร์ ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.58 ที่ผ่านมา นางยุพิน และชาวบ้านที่มาด้วยกันได้รับหมายศาล คดีดำเลขที่ 1917/2558 ระหว่างบริษัท พีเอสเอสคอร์ปอร์เรชั่น เป็นโจทก์ และบริษัทอินทิเกรทแต็ดควอลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 62 คน ซึ่งได้มีชื่อตนพร้อมพวกเป็นจำเลยอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เคยไปร่วมทำนิติกรรมใดๆ ต่อบริษัท อินทิเกรทแต็ดควอลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลย จึงรวมตัวกันมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ เนื่องจากพวกตนมีรายได้น้อยหาเช้ากินค่ำเท่านั้น
นางยุพิน ยังกล่าวต่อว่า เมื่อช่วงต้นปี 2554 ขณะนั้นได้มีคนในหมู่บ้านที่มีความสนิทสนมกันมาบอกว่า ให้นำสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านมารับเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจากบริษัท โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 500 บาท จึงนำไปให้เพื่อจะรับเงินช่วยเหลือ โดยเซ็นสำเนาถูกต้องไปให้อย่างละ 1 แผ่นเท่านั้น ไม่ได้เซ็นเอกสารอื่นๆ เลย จนเมื่อเดือนต้นเดือน มิ.ย.58 มีหมายศาลมาถึงตนอยู่ในฐานะจำเลยลำดับที่ 43 มีในเอกสารพบว่า มีการเบิกเงินค่าคอมมิชชัน จำนวน 420,000 บาท ตนตกใจมากเมื่อสอบถามเพื่อบ้านอีกหลายคนที่นำเอกสารไปให้พร้อมกันก็พบว่า มีหมายศาลมาถึงด้วยเช่นเดียวกัน แต่จำนวนเงินนั้นไม่เท่ากัน ตนไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะพวกตนไม่มีความรู้ทางกฎหมาย จึงรวมกันมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความดังกล่าว
นายปรีชา บุตรจันทร์ ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน กล่าวว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้เพื่อส่งให้สภาทนายความส่วนกลางพิจารณา ว่า จะให้ทางสภาทนายความจังหวัดหลังสวน ดำเนินการเอง หรือทางสภาทนายความส่วนกลางจะจัดหาทนายความให้ เนื่องจากบริษัททั้ง 2 อยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ได้ฝากถึงบุคลที่ได้รับหมายศาลให้เข้าไปรายงานตัวตามหมายศาลโดยเคร่งครัด เนื่องจากเป็นคดีอาญา ส่วนการช่วยเหลือด้านอื่นอยู่ระหว่างดำเนินการ และเชื่อว่าน่าจะมีชาวบ้านอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (7 ส.ค.) ที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นางยุพิน เรืองศรี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ 5 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน พร้อมด้วยชาวบ้านอีก 5 คน เข้าพบ นายปรีชา บุตรจันทร์ ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.58 ที่ผ่านมา นางยุพิน และชาวบ้านที่มาด้วยกันได้รับหมายศาล คดีดำเลขที่ 1917/2558 ระหว่างบริษัท พีเอสเอสคอร์ปอร์เรชั่น เป็นโจทก์ และบริษัทอินทิเกรทแต็ดควอลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 62 คน ซึ่งได้มีชื่อตนพร้อมพวกเป็นจำเลยอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เคยไปร่วมทำนิติกรรมใดๆ ต่อบริษัท อินทิเกรทแต็ดควอลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลย จึงรวมตัวกันมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ เนื่องจากพวกตนมีรายได้น้อยหาเช้ากินค่ำเท่านั้น
นางยุพิน ยังกล่าวต่อว่า เมื่อช่วงต้นปี 2554 ขณะนั้นได้มีคนในหมู่บ้านที่มีความสนิทสนมกันมาบอกว่า ให้นำสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านมารับเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจากบริษัท โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 500 บาท จึงนำไปให้เพื่อจะรับเงินช่วยเหลือ โดยเซ็นสำเนาถูกต้องไปให้อย่างละ 1 แผ่นเท่านั้น ไม่ได้เซ็นเอกสารอื่นๆ เลย จนเมื่อเดือนต้นเดือน มิ.ย.58 มีหมายศาลมาถึงตนอยู่ในฐานะจำเลยลำดับที่ 43 มีในเอกสารพบว่า มีการเบิกเงินค่าคอมมิชชัน จำนวน 420,000 บาท ตนตกใจมากเมื่อสอบถามเพื่อบ้านอีกหลายคนที่นำเอกสารไปให้พร้อมกันก็พบว่า มีหมายศาลมาถึงด้วยเช่นเดียวกัน แต่จำนวนเงินนั้นไม่เท่ากัน ตนไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะพวกตนไม่มีความรู้ทางกฎหมาย จึงรวมกันมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความดังกล่าว
นายปรีชา บุตรจันทร์ ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน กล่าวว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้เพื่อส่งให้สภาทนายความส่วนกลางพิจารณา ว่า จะให้ทางสภาทนายความจังหวัดหลังสวน ดำเนินการเอง หรือทางสภาทนายความส่วนกลางจะจัดหาทนายความให้ เนื่องจากบริษัททั้ง 2 อยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ได้ฝากถึงบุคลที่ได้รับหมายศาลให้เข้าไปรายงานตัวตามหมายศาลโดยเคร่งครัด เนื่องจากเป็นคดีอาญา ส่วนการช่วยเหลือด้านอื่นอยู่ระหว่างดำเนินการ และเชื่อว่าน่าจะมีชาวบ้านอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว