นราธิวาส - ผอ.ททท. พาสื่อ 3 จังหวัดชายแดนใต้ทุกสำนักเปิดโลกทัศน์แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เชื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงกระตุ้นเศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ในอนาคต
วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอะหมาน หมัดอาดัม ผอ.ททท.สำนักงานนราธิวาส เปิดเผยว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มองถึงสภาพเศรษฐกิจการท่องเที่ยวยังประสบปัญหา แม้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และสวยงาม เหมาะต่อการท่องเที่ยว แต่ปัญหาหลักที่พบคือ ความไม่สงบในพื้นที่ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงเดินทางมาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งทาง ททท.สำนักงานนราธิวาส ได้กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และได้รับผลตอบรับจากนักท่องเที่ยว ทั้งไทย และมาเลเซียได้ระดับหนึ่ง
ซึ่งเพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และกระตุ้นการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 30-31 กรกฎาคม และวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ทาง ททท.สำนักงานนราธิวาส ได้นำสื่อมวลชนภูมิภาคทุกแขนง หลายสำนักในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 25 ท่าน ไปดูงานแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น เขื่อนราชประภา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการชลประทาน และการผลิตกระแสไฟฟ้า สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เดิมชื่อว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน
โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2530 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดเขื่อนรัชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530 ในการท่องเที่ยวเขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกแห่งหนึ่ง
สามารถนั่งเรือหางยาวนั่งชมทัศนียภาพในอ่างเก็บน้ำ โดยเรือจะพาไปถึงแพของอุทยานพักผ่อนตามอิริยาบถ ชมทัศนียภาพ ถ่ายรูป แล้วก็เดินทางกลับ แต่สำหรับคณะที่ต้องการพักผ่อนบนแพท่ามกลางธรรมชาติก็จะพักค้างคืนบนแพ กิจกรรมที่น่าสนใจระหว่างที่พักอยู่ที่แพคือ ชมวิว เล่นน้ำ พายเรือแคนู ตกปลา และอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือ การไปเที่ยวถ้ำ ซึ่งจะต้องเดินป่าเข้าไป ระหว่างทางจะได้สัมผัสความสมบูรณ์ของป่าดิบของภาคใต้ ได้บรรยากาศการเดินเที่ยวป่าสัมผัสธรรมชาติ
อีกกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ การนั่งเรือชมวิวในอ่างเก็บน้ำสวยเกินคำบรรยาย ทัศนียภาพในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสวยงามมาก จนได้ชื่อว่า กุ้ยหลินเมืองไทย บริเวณเกาะแก่งในเขื่อน ยังมีแพพักของอุทยานฯ ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ไปท่องเที่ยวพักผ่อน ซึ่งในแต่ละปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 70,000 คน สร้างรายได้ให้แก่คนในพื้นที่ทั้งคนขับเรือนำเที่ยว และการค้าขายบริเวณสันเขื่อน
นอกจากนี้ ททท.ได้นำสื่อสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสัมผัสอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ คือ หาดที่มีชื่อเสียงของนครศรีธรรมราช โดดเด่นด้วยหาดทรายที่ยื่นยาวออกไปในทะเลคู่กับทิวสน เกาะมัตโกง และเกาะมัตสุ่ม มีหาดทรายยาวกับทิวมะพร้าว ปะการังสวยงาม อุดมสมบูรณ์ทั้งปะการังจาน ปะการังสมอง และปะการังเขากวาง รอบเกาะมีชายหาด และน้ำใส เหมาะต่อกิจกรรมดำน้ำ ดูปะการัง และเล่นน้ำ ยังประกอบไปด้วยอ่าวต่างๆ เช่น อ่าวท้องหยี อ่าวท้องยาง อ่าวคอเขา อ่าวหน้าด่าน อ่าวแฝงเภา อ่าวท้องชิง อ่าวในเพลา ซึ่งมีชายหาดที่มีทรายขาว สะอาด น้ำทะเลใส เหมาะสำหรับการเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่โดดเด่นคือ โลมาสีชมพูที่พบได้ง่าย ณ หาดขนอม รวมถึงเกาะนุ้ยนอก เกาะแห่งตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และยังนำสื่อพาไปชิมอาหารขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัด
นายอะหมาน หมัดอาดัม ผอ.ททท.สำนักงานนราธิวาส กล่าวอีกว่า การนำสื่อมวลชน สื่อสัมพันธ์ ททท. จะเป็นการเปิดโลกทัศน์สื่อมวลชน ซึ่งเชื่อว่าสื่อมวลชนจะเป็นกระบอกเสียงอีกทางหนึ่งที่จะเผยแพร่กระจายข่าวสาร ให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันนำพาให้เศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ธรรมชาติ และอัตลักษณ์ของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอนาคตได้อย่างแน่นอน