สุราษฎร์ธานี - ทหาร ร่วม ปภ.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก 29 ครัวเรือน ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมดหลังฝนตกนาน 3 ชั่วโมง ขณะที่อุทยานเขาสก ประกาศสั่งห้ามนักท่องเที่ยวเดินป่าเข้าถ้ำน้ำทะลุไม่มีกำหนด
จากกรณีน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนม ไหลหลากทะลักลงมาในพื้นที่บ้านต้นยวน และเข้าท่วมบ้านเรือประชาชนในพื้นที่ทั้งหมด 7 หมู่บ้าน คือ ม.1-ม.7 ของ ต.คลองชะอุ่น อ.พนม ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เมื่อคืนที่ผ่านมา เช้าวันนี้ (8 พ.ย.) พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญการมณฑลที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิตสุราษฎร์ธานี นำกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ ปภ. ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เข้าทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่โดยทหารเข้าช่วยเก็บทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย และทำความสะอาดจากร่องรอยถูกน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยแจกข้าวกล่อง และข้าวสาร พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อยังชีพในเบื้องต้น
นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ หัวหน้า ปภ.เขตพระแสง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ อ.พนม ได้สรุปความเสียหายจากนำป่าไหลหลากครั้งนี้ ว่า มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 7 หมู่บ้าน ในตำบลต้นยวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นราษฎรที่อาศัยอยู่ริมคลองบางเหรียง จำนวน 29 ครัวเรือน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 120 คน เส้นทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด จำนวน 5 สาย ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สิน และข้าวของเครื่องใช้ และเครื่องอุปโภคบริโภคเสียหายทั้งหมด โดยการช่วยเหลือเบื้องต้นทาง ปภ.มอบเงินครัวเรือนละ 3 หมื่นบาท
ขณะที่ นางอุไร แสงตาขุน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1ม.6 ต.ต้นยวน อ.พนม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนักติดต่อกัน 3 ชั่วโมง จากนั้นมีน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงน้ำทะลักเข้ามาในตัวบ้านเกือบท่วมหลังคา ซึ่งตนกับลูกๆ และหลานเพิ่งคลอดได้เพียง 1 เดือน ต้องพากันหนีน้ำป่าขึ้นไปบนถนนในที่สูงเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนทรัพย์สินไม่ได้เก็บแม้แต่ชิ้นเดียว รวมทั้งเงินสดที่มีอยู่ในบ้านกว่า 4 พันบาท และเอกสารสำคัญถูกน้ำป่าพัดพาหายไปกับกระแสน้ำทั้งหมด
ขณะที่การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน นายนพภา โสภา นายก อบต.ต้นยวน พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ สรรภา กำนัน ต.ต้นยวน ได้นำรถแบ็กโฮทำการซ่อมแซมถนนให้สามารถสัญจรไปมาได้ก่อน เช่นเดียวกับมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้นำน้ำดื่ม 550 ขวด ข้าวกล่อง 150 ชุด พร้อมข้าวสาร 154 ถุง เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น
ขณะที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเดินป่าเข้าถ้ำน้ำทะลุและไปเที่ยวน้ำตกในพื้นที่อย่างเด็ดขาดโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากถ้ำน้ำทะลุ เคยเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตมาแล้วถึง 7 ศพเนื่องจากมีฝนตกหนัก และมีน้ำหลากเข้าถ้ำ
ส่วนที่บริเวณเขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี มีปริมาณน้ำฝนไหลลงจากอุทยานแห่งชาติเขาสกจำนวนมาก ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนรัชชประภาเพิ่มขึ้น ท่วมบริเวณท่าเทียบเรือ แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการนำเรือท่องเที่ยวในช่วงกลางวัน ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวล่องเรือชมความงามของกุ้ยหลินเมืองไทยกันอย่างคึกคัก แต่เจ้าหน้าที่ย้ำเตือนเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง กำชับให้สวมเสื้อชูชีพทุกคน
จากกรณีน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนม ไหลหลากทะลักลงมาในพื้นที่บ้านต้นยวน และเข้าท่วมบ้านเรือประชาชนในพื้นที่ทั้งหมด 7 หมู่บ้าน คือ ม.1-ม.7 ของ ต.คลองชะอุ่น อ.พนม ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เมื่อคืนที่ผ่านมา เช้าวันนี้ (8 พ.ย.) พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บัญการมณฑลที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิตสุราษฎร์ธานี นำกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ ปภ. ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เข้าทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่โดยทหารเข้าช่วยเก็บทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย และทำความสะอาดจากร่องรอยถูกน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยแจกข้าวกล่อง และข้าวสาร พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อยังชีพในเบื้องต้น
นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ หัวหน้า ปภ.เขตพระแสง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ อ.พนม ได้สรุปความเสียหายจากนำป่าไหลหลากครั้งนี้ ว่า มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน 7 หมู่บ้าน ในตำบลต้นยวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นราษฎรที่อาศัยอยู่ริมคลองบางเหรียง จำนวน 29 ครัวเรือน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 120 คน เส้นทางเข้าหมู่บ้านถูกตัดขาด จำนวน 5 สาย ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สิน และข้าวของเครื่องใช้ และเครื่องอุปโภคบริโภคเสียหายทั้งหมด โดยการช่วยเหลือเบื้องต้นทาง ปภ.มอบเงินครัวเรือนละ 3 หมื่นบาท
ขณะที่ นางอุไร แสงตาขุน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1ม.6 ต.ต้นยวน อ.พนม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนักติดต่อกัน 3 ชั่วโมง จากนั้นมีน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงน้ำทะลักเข้ามาในตัวบ้านเกือบท่วมหลังคา ซึ่งตนกับลูกๆ และหลานเพิ่งคลอดได้เพียง 1 เดือน ต้องพากันหนีน้ำป่าขึ้นไปบนถนนในที่สูงเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนทรัพย์สินไม่ได้เก็บแม้แต่ชิ้นเดียว รวมทั้งเงินสดที่มีอยู่ในบ้านกว่า 4 พันบาท และเอกสารสำคัญถูกน้ำป่าพัดพาหายไปกับกระแสน้ำทั้งหมด
ขณะที่การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน นายนพภา โสภา นายก อบต.ต้นยวน พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ สรรภา กำนัน ต.ต้นยวน ได้นำรถแบ็กโฮทำการซ่อมแซมถนนให้สามารถสัญจรไปมาได้ก่อน เช่นเดียวกับมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ได้นำน้ำดื่ม 550 ขวด ข้าวกล่อง 150 ชุด พร้อมข้าวสาร 154 ถุง เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น
ขณะที่อุทยานแห่งชาติเขาสก ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเดินป่าเข้าถ้ำน้ำทะลุและไปเที่ยวน้ำตกในพื้นที่อย่างเด็ดขาดโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากถ้ำน้ำทะลุ เคยเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตมาแล้วถึง 7 ศพเนื่องจากมีฝนตกหนัก และมีน้ำหลากเข้าถ้ำ
ส่วนที่บริเวณเขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี มีปริมาณน้ำฝนไหลลงจากอุทยานแห่งชาติเขาสกจำนวนมาก ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนรัชชประภาเพิ่มขึ้น ท่วมบริเวณท่าเทียบเรือ แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการนำเรือท่องเที่ยวในช่วงกลางวัน ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวล่องเรือชมความงามของกุ้ยหลินเมืองไทยกันอย่างคึกคัก แต่เจ้าหน้าที่ย้ำเตือนเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง กำชับให้สวมเสื้อชูชีพทุกคน