xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.บต.รับเรื่องสอบวินัยผู้ว่าฯ สงขลา โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ชาวบ้านเผยศึกษาข้อมูลมารอบด้านมั่นใจโรงไฟฟ้าถ่านหินให้ประโยชน์ในระยะสั้น แต่จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชนในระยะยาว



วันนี้ (27 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ประชาชนเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องตรวจสอบการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และตรวจสอบทางวินัยในการใช้อำนาจการปกครองอันมิชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา อ้างถึง คำสั่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ที่ 2941/2558 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2558

เครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาถ่านหิน เป็นกลุ่มบุคคลที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของชุมชน รวมทั้งเป็นผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ขนาด 2,200 เมกะวัตต์ อันเป็นโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทางเครือข่ายฯ ได้รวมตัวกันโดยการศึกษารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน จากทุกภาคส่วนทั้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเจ้าของโครงการ กลุ่มนักวิชาการ ชุมชน ผู้เคยมีประสบการณ์ทางตรงในพื้นที่ที่มีการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน แม้กระทั่งข้อมูลทางวิชาการจากต่างประเทศ จนแน่ใจได้ว่าผลกระทบจากมลพิษของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะมีผลต่อทรัพยากร และวิถีชีวิตชุมชน ไม่อาจจะป้องกันได้ จึงต้องคัดค้านโครงการนี้เพื่อปกป้องชุมชนไม่ให้ต้องได้รับความเสียหาย

นโยบายที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยอ้างว่าถ้าไม่สร้างปริมาณไฟฟ้าจะไม่เพียงพอ ไฟจะดับ วาทกรรมถ่านหินสะอาด ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่มีการพิสูจน์แล้วว่า เป็นเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และรัฐบาลเท่านั้น อีกทั้งในกระบวนการที่เรียกว่าเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ทั้งการจัดเวทีจัดทำขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (ค1) และกระบวนการประเมินผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (ค2) ก็ไม่มีการรับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้าน

โดยในการจัดการรับฟังความเห็นมีการกีดกัน ข่มขู่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต่อการก่อสร้างโครงการ นอกจากนั้น ยังใช้วิธีการเอาผลประโยชน์เข้าล่อโดยแจกข้าวสารเพื่อให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงจำนวนมากมาร่วมลงชื่อสนับสนุนโรงไฟฟ้า วิธีการเช่นนี้ย่อมทำให้กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนถูกบิดเบือนไปเป็นเพียงพิธีกรรมสร้างเอกสารสำหรับการอนุมัติ เห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมฯ โดยไม่สนใจกระบวนการมีส่วนร่วม และเนื้อหาผลกระทบที่แท้จริง

และเมื่อมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อทบทวนร่างรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (ค.3) ในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จะมาทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ได้มีคำสั่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสงขลา ที่ 2941/2558 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นผู้ลงนามออกประกาศและจัดส่งคำสั่งดังกล่าวไปให้สมาชิกบางคนของเครือข่ายฯ โดยสาระสำคัญของคำสั่งดังกล่าวระบุว่า จากการประมวลข้อมูลข่าวสารอาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่มีความเห็นต่างในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทพา อันอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายของประชาชนหรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือรัฐ จึงมีคำสั่งห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลเข้าไปชุมนุมหรือดำเนินการด้วยประการใดไดอันอาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่

คำสั่งดังกล่าวของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ขัดต่อหลักการคุ้มครองสิทธิของประชาชนและสิทธิของชุมชนที่จะมีส่วนร่วมกับหน่วยงานรัฐในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลักการคุ้มครองสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร สิทธิในการใช้ประโยชน์และคุ้มครองรักษาทรัพยากรและวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่นของตน อันเป็นสิทธิที่บัญญัติรับรองไว้ตามความในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 มาตรา 4 ทั้งอาจไม่สอดคล้องต่อแนวทางการปฏิบัติราชการที่ดีอันเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

ทางเครือข่ายฯ จึงเรียกร้องให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ดำเนินการดังนี้ 1.ตรวจสอบการดำเนินโครงการของบริษัทคอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด และมีข้อเสนอให้บริษัทดังกล่าวยุติการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับกระบวนการอันนำไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เพราะขาดความชอบธรรม ขาดธรรมาภิบาล

2.ตรวจสอบทางวินัยในการใช้อำนาจการปกครองอันมิชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่ใช้อำนาจออกคำสั่งข่มขู่ใส่ร้ายผู้เห็นต่างกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา 3.ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยุติโฆษณาชวนเชื่อ ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อประชาชน อันทำให้เกิดความแตกแยก และความเข้าใจผิดในกรณีการก่อสร้างท่าเรือ และโรงไฟฟ้าถ่านหิน

โดย นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต.ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านเข้าพบ และชี้แจงรายละเอียดความเดือดร้อน และแนะนำให้ประชาชนเครือข่ายคนสงขลา-เทพา นำเรื่องดังกล่าวร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมประจำรัฐสภาอีกช่องทางหนึ่งด้วย
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น