กระบี่ - สมาคมคนรักษ์เล กระบี่ ยื่นหนังสือผ่าน ผวจ.กระบี่ ถึงนายกฯ ตู่ ขออย่าใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้อดหารประท้วงโรงไฟฟ้าถ่านหิน พร้อมจี้หยุดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่จังหวัดกระบี่
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (21 ก.ค. ) นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักษ์เลกระบี่ พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 10 คน ได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมยื่นหนังสือเปิดผนึกผ่านนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้คุ้มครองแก่ผู้ที่อดอาหารประท้วงไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ที่หน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากเป็นการแสดงออกอย่างสันติวิธี ของเครือข่ายปกป้องป้องกันดามันจากหิน เป็นการสื่อสารต่อผู้มีอำนาจ และสาธารณชนอย่างเปิดเผย ปราศจากอาวุธ และไม่มีวัตถุประสงค์ทางการเมือง หรือการก่อความไม่สงบแต่ประการใด เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอานาจักรไทย และหลักการสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารสูงสุดของประเทศจึงมีหน้าที่คุ้มครองไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงใดๆ ต่อการแสดงออกดังกล่าว โดยทาง ผวจ.กระบี่ รับหนังสือพร้อมส่งต่อไปยังนายกรัฐมนตรี ตามคำเรียกร้องของสมาคมฯ ต่อไป
นายอาหลี ได้กล่าวว่า การยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี นอกจากขอให้ทางนายกรัฐมนตรี ไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วงแล้ว ยังขอให้ กฟผ.ยุติการเปิดประมูลการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และท่าเรือขนส่งถ่านหิน และยุติขบวนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของท่าเรือขนส่งถ่านหิน และโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ ให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกระบี่สีเขียว เพื่อพัฒนาจังหวัดกระบี่ให้เป็นจังหวัดต้นแบบที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจังหวัดกระบี่มีต้นทุนพร้อม โดยสามารถดำเนินการเสร็จภายใน 3 ปี
นายกสมาคมคนรักษ์เลกระบี่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นเพื่อการก่อสร้างท่าเรือขนส่งถ่านหิน และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไม่โปร่งใส ขาดหลักวิชาการ แต่เป็นการจัดทำเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่โรงไฟฟ้าถ่านหิน และขัดต่อหลักธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม โดยการโฆษณาชวนเชื่อว่าถ่านหินสะอาด เป็นเรื่องเท็จ และการเปิดประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยที่รายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพยังไม่ได้รับความเห็นชอบ เป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงการขาดธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน จนไม่สามารถเชื่อถือ กฟผ.ได้อีกต่อไป
