ตรัง - ตรังพบ “เต่าหญ้า” เพศเมีย อายุประมาณ 3-5 ปี ขาด้วน สภาพอ่อนแรงลอยเหนือผิวน้ำ ไม่สามารถว่ายจมน้ำได้ สัตวแพทย์เร่งนำตัวส่งรักษาศูนย์วิจัย จ.ภูเก็ต
วันนี้ (15 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง ได้รับรายงานจาก นายหลงเฝี๊ยะ บางสัก ประธานเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์บ้านน้ำราบ ว่า มีชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 บ.น้ำราบ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง พบเต่าขนาดใหญ่สภาพอ่อนแรง ลอยอยู่เหนือผิวน้ำไม่สามารถว่ายจมน้ำได้ จึงได้ช่วยเหลือเอาไว้ แล้วประสานมายังศูนย์อนุรักษ์ฯ จ.ตรัง เพื่อให้เข้าตรวจสอบพร้อมให้การช่วยเหลือ
นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเต่าหญ้า อายุประมาณ 3-5 ปี เพศเมีย ความยาว 60 เซนติเมตร กว้าง 54 เซนติเมตร สภาพอ่อนแรง มี 3 ขา เนื่องจากขาขวาด้วน ซึ่งน่าจะพิการมาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย หรือได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือประมงแต่อย่างใด โดยเต่ามีสภาพที่ผอมกว่าปกติ น่าจะไม่ได้กินอาหารมาหลายวันติดต่อกัน จึงทำให้มีอาการอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด
สัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เร่งให้นำตัวไปทำการรักษาอย่างด่วน เพราะที่ศูนย์อนุรักษ์ฯ จ.ตรัง มีเครื่องมือช่วยเหลือไม่เพียงพอ ซึ่งขณะที่เดินทางไป จ.ภูเก็ต ต้องนำผ้าชุบน้ำเปียกชุ่มมาคลุมกระดองไว้ไม่ให้กระดองแห้ง เพราะเต่าเป็นสัตว์ทะเล หากกระดองแห้งจะกระทบต่อสภาพร่างกาย อาจทำให้อาการทรุดลงไปกว่าเดิม
นายประจวบ กล่าวว่า ในท้องทะเลตรังไม่ค่อยมีเต่าหญ้ามากนัก ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นเต่าตนุ เป็นสัตว์ทะเลหายากประเภทพะยูน และโลมามากกว่า ซึ่งน่าเสียดายที่มักจะพบในลักษณะที่ไม่สมบูรณ์ โดยเมื่อวานนี้ก็ได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ม.2 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ว่า พบซากโลมาสภาพเน่าเปื่อย ไม่สามารถตรวจสอบเพศ และชนิดได้ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้ว จึงให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ และเก็บข้อมูล รวมทั้งเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจดีเอ็นเอ ส่วนซากก็ได้ฝังไว้ในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว