xs
xsm
sm
md
lg

บินหาต่อ 3 ลูกเรือล่มหน้าเกาะราชา เตรียมกู้เรือกัมพูชาหลังคลื่นสงบ น้ำมัน 7 พันลิตรไม่รั่ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทัพเรือภาค 3 ส่งเฮลิคอปเตอร์บินค้นหา 3 ลูกเรือขนสินค้าล่มที่เการาชา ยังไม่ทราบชะตากรรม บริเวณเกาะลันตา และเกาะพีพี หลังพบลูกเรือลอยคอเกยเกาะลันตาเมื่อเย็น และเช้าวันนี้ ด้านเจ้าท่าเร่งประสานเจ้าของเรือ และบริษัทเจ้าของสินค้ากู้เรือสินค้ากัมพูชาชนโขดหินที่เกาะเฮทันทีหลังคลื่นลมสงบ ผู้ว่าฯ ระบุไม่กระทบท่องเที่ยว และระบบนิเวศ น้ำมันใต้ท้องเรือ 7,000 ลิตรยังไม่รั่วออกมา เฝ้าระวังใกล้ชิด เตือนชาวเรือปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด เรือเล็กกว่า 12 เมตร ห้ามออกจากฝั่งเด็ดขาด

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 ก.ค.) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้การช่วยเหลือลูกเรือจากเหตุการณ์เรือล่มในทะเลอันดามัน 3 ลำ ระหว่างวันที่ 7-8 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า จากการประสานกับทัพเรือภาค 3 ปรากฏว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำ และเจ้าท่า ได้ให้การช่วยเหลือลูกเรือที่เรือล่มกลางทะเลได้ทั้งหมดแล้วในส่วนของเรือบรรทุกสินชาติกัมพูชา ที่ชนโขดหินเกาะเฮ จำนวน 10 คน และเรือเบ็ดราว ที่ใกล้กับเกาะราชา จำนวน 6 คน ส่วนเรือบรรทุกวัสดุก่อสร้าง หรือเรือบาสที่จมใกล้ๆ กับเกาะราชา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้สามารถช่วยเหลือลูกเรือได้แล้ว จำนวน 3 คน เป็นคนไทย 1 คน ที่เกาะลันตา และพม่าอีก 2 คน ที่เกาะหมาใกล้กับเกาะลันตา ขณะนี้ยังเหลือลูกเรือที่สูญหายอีก 3 คน เป็นคนไทย 1 คน และพม่า 2 คน ซึ่งจากการสอบถามลูกเรือทั้ง 3 คน ที่ช่วยชีวิตมาได้นั้น ทราบว่า ทั้งหมดน่าจะยังลอยคอยอยู่ในทะเล และโดยเฉพาะชาวพม่าทั้ง 2 คน อยู่ในวัย 18-20 ปี น่าที่จะมีกำลังลอยคออยู่ในทะเลได้

“จากการประสานกับทางผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 ทราบว่า ขณะนี้ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกค้นหาลูกเรือทั้ง 3 คนแล้ว โดยจะบินสำรวจในบริเวณจุดใกล้กับที่พบลูกเรือทั้ง 3 คนแรกในบริเวณเกาะลันตา และเกาะพีพี จ.กระบี่”

สำหรับเรือบรรทุกสินค้าของกัมพูชาที่ถูกคลื่นซัดชนโขดหินที่บริเวณเกาะเฮนั้น ในส่วนของตัวเรือที่จมอยู่ในทะเลขณะนี้นั้น ในตู้คอนเทนเนอร์เป็นสินค้าประเภทอาหารทะเลแช่แข็ง ทางเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้มีการประสานกับทางบริษัท แสงเจริญ ผู้ว่าจ้างขนสินค้า และเจ้าของเรือที่ประเทศกัมพูชาในการกู้เรือ เพราะการกู้เรือดังกล่าวทางเจ้าของเรือจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรือด้วย รวมทั้งจะกู้เรือขึ้นมาเมื่อคลื่นลมสงบ ส่วนความเสียหายนั้นจะต้องรอข้อมูลจากเจ้าของสินค้า และเจ้าของเรือ และคิดว่าสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าแช่แข็งน่าจะอยู่ได้หลายวัน

ส่วนในประเด็นที่เกรงกันว่า การจมของเรือลำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ท้องทะเลในบริเวณนั้นหรือไม่ นายนิสิต กล่าวว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และระบบนิเวศทางทะเลในบริเวณเกาะเฮ เพราะจากการเฝ้าระวังน้ำมันที่อยู่ในท้องเรือ 7,000 ลิตร ยังไม่มีการั่วไหลออกมาแต่อย่างใดในขณะนี้ ซึ่งเรื่องนี้ทางทหารเรือ และตำรวจน้ำก็มีการลาดตระเวนตรวจตราอยู่เป็นระยะๆ อยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

นายนิสิต ยังกล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ในการรองรับการให้การช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุเรือล่มกลางทะเลอันดามัน ว่า ภูเก็ตมีความพร้อมในเรื่องของการให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และลูกเรือของเรือต่างๆ หากเกิดเหตุขึ้นในทะเล และสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยเฉพาะทางทัพเรือภาคที่ 3 และตำรวจน้ำ รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ใน ศรชล.เขต 3 และเครือข่ายเรือประมง จะบูรณาการทุกหน่วยงานเข้าทำการช่วยเหลือ และทางจังหวัดภูเก็ตยังมีคณะกรรมการควบคุมเรือออกจากฝั่งอีกด้วย ที่มีทั้งเจ้าท่า ทัพเรือภาคที่ 3 กรมอุตุนิยมวิทยา ผู้ประกอบการเรือโดยสารขนาดใหญ่ เรือสปีดโบต ที่จะพิจารณาร่วมกันว่าหากมีการประกาศเตือนจากกรมอุตุฯ จะอนุญาตให้เรือออกจากฝั่งหรือไม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว และลูกเรือมากที่สุด เพราะเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นนโยบายสำคัญของราชการ และในช่วงนี้ที่มีคลื่นลมแรง ทางคณะกรรมการฯ จะอนุญาตให้เรือที่มีความยาวเกิน 12 เมตรออกทะเลได้เท่านั้น ส่วนเรือที่เล็กกว่านี้ห้ามออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด และยิ่งในพื้นที่ทางตะวันตกอย่างเกาะราชา หรือเกาะพีพี ห้ามเรืออออไปในเส้นทางนั้นโดยเด็ดขาด แต่ในส่วนของฝั่งตะวันออก เช่น อ่าวพังงา สามารถที่จะเดินเรือได้จากคลื่นลมที่ไม่สูงมากนัก จึงอยากจะฝากเตือนถึงผู้ประกอบการเรือทุกประเภทให้ปฏิบัติตามคำเตือนของกรมอุตุฯ และคณะกรรมการควบคุมเรือฯ ของภูเก็ตอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเรือล่มในทะเลขึ้นมาอีก รวมถึงก่อนออกจากท่าจะต้องตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ให้พร้อมด้วย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น