ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำหน่วยงานราชการลงพื้นที่ชุมชนสระต้นโพธิ์ ประชุมแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งปัญหาเรื่องที่ดิน หลังชาวบ้านยืนหนังสือร้องเรียนผู้ให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ดินยืนยันชัดเอกสารสิทธิออกถูกต้อง ขณะที่ที่ดินสัมปทานเหมืองแร่ที่ชาวบ้านอ้าง หน่วยงานราชการยังมึนชี้จุดไม่ได้ ชาวบ้านจี้รัฐหามาคืน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (8 ก.ค.) นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สำนักงานป่าไม้ เจ้าหน้าที่ป่าชายเลน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากทัพเรือภาคที่ 3 รวมทั้ง นายรอเหม สังข์ขาว ตัวแทนชาวบ้านชุมชนสระต้นโพธิ์ หมู่ที่ 3 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยชาวบ้านในชุมชน ร่วมประชุมหาแทนทางการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน และข้อสอบถามของชาวบ้านกรณียื่นหนังสือถึงจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ทางจังหวัดช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนกรณีการเข้าไปอาศัยอยู่ในที่ดินบริเวณซอยสระต้นโพธิ์ รวมทั้งเรื่องของการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่หมดสัมปทานเหมืองแร่
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของผู้ว่าราชการ ให้ลงมาตรวจสอบปัญหา และประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังได้รับการร้องเรียนจากทางชาวบ้าน ซึ่งในการแก้ปัญหานั้นยึดหลัก 2 ประการ คือ ยึดหลักกฎหมายมาใช้พิจารณา และการใช้หลักธรรมมาภิบาล ซึ่งการแก้ปัญหานั้นจะต้องมีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยไม่มีข้อขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าของที่อ้างเอกสารสิทธิครอบครอง และในการนั้นทางหน่วยงานราชการพร้อมที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น ซึ่งปัญหาเรื่องที่ดินที่มีปัญหาอยู่นี้ ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบ และได้ผลสรุปออกมาแล้ว
นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทางชุมชนสระต้นโพธิ์ ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งศูนย์ดำรงธรรม ผู้ตรวจราชการ สำนักนายกฯ และอื่นๆ ให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดิน จำนวน 70 กว่าไร่ โฉนดเลขที่ 73 ม.3 ต.ฉลอง เนื่องจากชาวบ้านในชุมชนเชื่อว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสัมปทานเหมืองแร่ เลขที่ 6700/8260 รวมทั้งรองขอให้ทางเจ้าหน้าที่หยุดจับกุมดำเนินคดีกับชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้มีคดีความฟ้องร้องกันอยู่หลายคดีแล้ว ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในจุดนี้เป็นปัญหาระหว่างกลุ่มชาวบ้านที่บุกรุกเข้าไปอาศัยอยู่ในที่ดินที่คิดว่าเป็นที่ดินสัมปทานเหมืองแร่เก่า ในขณะที่เจ้าของที่ดินก็ยืนยันเอกสารสิทธิครอบครองถูกต้อง
สำหรับกรณีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้ชี้แจงในที่ประชุม ว่า ที่ผ่านมาทางชาวบ้านก็ได้มีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ดิน และกรมที่ดินมาแล้ว แต่ศาลยกฟ้อง ส่วนเรื่องของการตรวจการออกเอกสารสิทธินั้นพบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเดิมมีโฉนด 5 ฉบับ ซึ่งเป็นโฉนดที่ออกมาตั้งแต่ปี 2456 หลังจากนั้น ทางเจ้าของที่ดินได้นำที่ดินทั้งหาแปลงมาร่วมออกเป็นโฉนดแปลงเดียวเมื่อปี 2556 เนื้อที่ประมาณ 80 กว่า และที่ดินแปลงนี้ยังไม่เคยถูกเพิกถอนโฉนดแต่อย่างใด และเป็นการออกโฉนดอย่างถูกต้อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จี้แจงว่า ในส่วนของป่าไม่นั้นโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวออกมาก่อนที่จะมีการประกาศเขตป่าไม้ และเขตป่าชายเลน
อย่างไรก็ตาม นายรอเหม ตัวแทนชาวบ้านสระต้นโพธิ์ กล่าวชี้แจงว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวชาวบ้านเข้ามาอาศัยอยู่เมื่อปี 2546 โดยชาวบ้านคิดว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินสัมปทานเหมืองแร่ที่หมดอายุสัมปทานแล้ว หลังจากนั้น ก็ได้ชักชวนคนอื่นๆ เข้ามาอยู่เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของชาวบ้านอยากให้มีการตรวจสอบว่าการออกโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ถ้าที่ดินแปลงดังกล่าวมีเอกสารสิทธิถูกต้อง ชาวบ้านอยากทราบว่าที่ดินแปลงสัมปทานเหมืองแร่เลขที่ 6700/8260 อยู่ที่ไหน ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหามาให้ได้ ถ้าทราบว่าอยู่ที่ไหนชาวบ้านจะเข้าไปอยู่ และพร้อมออกจากแปลงที่ดินที่มีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ถ้าที่ดินแปลงสัมปทานเหมืองแร่เป็นคนละแปลงกับแปลงที่มีปัญหาในขณะนี้ แต่ทางหน่วยงานจะต้องตอบให้ได้ เพราะจากการตรวจสอบเอกสารที่มีการขอประทานบัตรมีการยืนยันว่า ที่ดินจำนวน 83 ไร่ ที่มีการขอประทานบัตรเหมือแร่นั้นเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตป่าไม้ และป่าชายเลน ไม่มีการระบุว่าอยู่ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ
สำหรับกรณีประทานบัตรเหมืองแร่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดได้ชี้แจง ว่า สัมปทานเหมืองแร่เลขที่ดังกล่าวนั้นมีการขอจริง และมีการระบุบัญชีแผนที่แนบใต้ แต่เหมืองหมดสัมปทานพื้นที่ถ้าอยู่ในเขตป่าไม้ก็จะกลับไปอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ แต่ถ้าอยู่ในป่าใช้เลยก็จะกลับไปอยู่ในส่วนของฝ่ายป่าชายเลนที่รับผิดชอบ ในขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ได้ว่าแปลงสัมปทานดังกล่าวอยู่จุดใด จะต้องมีการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะป่าไม้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในขั้นตอนนี้เรื่องของการออกเอกสารสิทธิ์ทีดินแปลงดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันแล้วว่า มีการออกเอกสารสิทธิถูกต้อง ส่วนเรื่องของการฟ้องร้องนั้นเป็นเรื่องที่ทางจังหวัดไม่สามารถก้างล่วงได้ ขณะที่ปัญหาเรื่องของที่ดินสัมปทาน เรื่องนี้จะต้องมีการตั้งเรื่องขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่สัมปทานแปลงดังกล่าวอยู่ที่ไหน และจะต้องเอาคำตอบมาตอบให้ได้
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (8 ก.ค.) นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สำนักงานป่าไม้ เจ้าหน้าที่ป่าชายเลน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากทัพเรือภาคที่ 3 รวมทั้ง นายรอเหม สังข์ขาว ตัวแทนชาวบ้านชุมชนสระต้นโพธิ์ หมู่ที่ 3 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยชาวบ้านในชุมชน ร่วมประชุมหาแทนทางการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน และข้อสอบถามของชาวบ้านกรณียื่นหนังสือถึงจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ทางจังหวัดช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนกรณีการเข้าไปอาศัยอยู่ในที่ดินบริเวณซอยสระต้นโพธิ์ รวมทั้งเรื่องของการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่หมดสัมปทานเหมืองแร่
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของผู้ว่าราชการ ให้ลงมาตรวจสอบปัญหา และประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังได้รับการร้องเรียนจากทางชาวบ้าน ซึ่งในการแก้ปัญหานั้นยึดหลัก 2 ประการ คือ ยึดหลักกฎหมายมาใช้พิจารณา และการใช้หลักธรรมมาภิบาล ซึ่งการแก้ปัญหานั้นจะต้องมีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยไม่มีข้อขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าของที่อ้างเอกสารสิทธิครอบครอง และในการนั้นทางหน่วยงานราชการพร้อมที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น ซึ่งปัญหาเรื่องที่ดินที่มีปัญหาอยู่นี้ ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบ และได้ผลสรุปออกมาแล้ว
นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทางชุมชนสระต้นโพธิ์ ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งศูนย์ดำรงธรรม ผู้ตรวจราชการ สำนักนายกฯ และอื่นๆ ให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดิน จำนวน 70 กว่าไร่ โฉนดเลขที่ 73 ม.3 ต.ฉลอง เนื่องจากชาวบ้านในชุมชนเชื่อว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสัมปทานเหมืองแร่ เลขที่ 6700/8260 รวมทั้งรองขอให้ทางเจ้าหน้าที่หยุดจับกุมดำเนินคดีกับชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้มีคดีความฟ้องร้องกันอยู่หลายคดีแล้ว ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในจุดนี้เป็นปัญหาระหว่างกลุ่มชาวบ้านที่บุกรุกเข้าไปอาศัยอยู่ในที่ดินที่คิดว่าเป็นที่ดินสัมปทานเหมืองแร่เก่า ในขณะที่เจ้าของที่ดินก็ยืนยันเอกสารสิทธิครอบครองถูกต้อง
สำหรับกรณีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้ชี้แจงในที่ประชุม ว่า ที่ผ่านมาทางชาวบ้านก็ได้มีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ดิน และกรมที่ดินมาแล้ว แต่ศาลยกฟ้อง ส่วนเรื่องของการตรวจการออกเอกสารสิทธินั้นพบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเดิมมีโฉนด 5 ฉบับ ซึ่งเป็นโฉนดที่ออกมาตั้งแต่ปี 2456 หลังจากนั้น ทางเจ้าของที่ดินได้นำที่ดินทั้งหาแปลงมาร่วมออกเป็นโฉนดแปลงเดียวเมื่อปี 2556 เนื้อที่ประมาณ 80 กว่า และที่ดินแปลงนี้ยังไม่เคยถูกเพิกถอนโฉนดแต่อย่างใด และเป็นการออกโฉนดอย่างถูกต้อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จี้แจงว่า ในส่วนของป่าไม่นั้นโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวออกมาก่อนที่จะมีการประกาศเขตป่าไม้ และเขตป่าชายเลน
อย่างไรก็ตาม นายรอเหม ตัวแทนชาวบ้านสระต้นโพธิ์ กล่าวชี้แจงว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวชาวบ้านเข้ามาอาศัยอยู่เมื่อปี 2546 โดยชาวบ้านคิดว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินสัมปทานเหมืองแร่ที่หมดอายุสัมปทานแล้ว หลังจากนั้น ก็ได้ชักชวนคนอื่นๆ เข้ามาอยู่เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของชาวบ้านอยากให้มีการตรวจสอบว่าการออกโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ถ้าที่ดินแปลงดังกล่าวมีเอกสารสิทธิถูกต้อง ชาวบ้านอยากทราบว่าที่ดินแปลงสัมปทานเหมืองแร่เลขที่ 6700/8260 อยู่ที่ไหน ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหามาให้ได้ ถ้าทราบว่าอยู่ที่ไหนชาวบ้านจะเข้าไปอยู่ และพร้อมออกจากแปลงที่ดินที่มีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ถ้าที่ดินแปลงสัมปทานเหมืองแร่เป็นคนละแปลงกับแปลงที่มีปัญหาในขณะนี้ แต่ทางหน่วยงานจะต้องตอบให้ได้ เพราะจากการตรวจสอบเอกสารที่มีการขอประทานบัตรมีการยืนยันว่า ที่ดินจำนวน 83 ไร่ ที่มีการขอประทานบัตรเหมือแร่นั้นเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตป่าไม้ และป่าชายเลน ไม่มีการระบุว่าอยู่ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ
สำหรับกรณีประทานบัตรเหมืองแร่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดได้ชี้แจง ว่า สัมปทานเหมืองแร่เลขที่ดังกล่าวนั้นมีการขอจริง และมีการระบุบัญชีแผนที่แนบใต้ แต่เหมืองหมดสัมปทานพื้นที่ถ้าอยู่ในเขตป่าไม้ก็จะกลับไปอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ แต่ถ้าอยู่ในป่าใช้เลยก็จะกลับไปอยู่ในส่วนของฝ่ายป่าชายเลนที่รับผิดชอบ ในขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ได้ว่าแปลงสัมปทานดังกล่าวอยู่จุดใด จะต้องมีการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะป่าไม้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในขั้นตอนนี้เรื่องของการออกเอกสารสิทธิ์ทีดินแปลงดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันแล้วว่า มีการออกเอกสารสิทธิถูกต้อง ส่วนเรื่องของการฟ้องร้องนั้นเป็นเรื่องที่ทางจังหวัดไม่สามารถก้างล่วงได้ ขณะที่ปัญหาเรื่องของที่ดินสัมปทาน เรื่องนี้จะต้องมีการตั้งเรื่องขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่สัมปทานแปลงดังกล่าวอยู่ที่ไหน และจะต้องเอาคำตอบมาตอบให้ได้