ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของที่ดินยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต แจงข้อเท็จจริงถูกชาวบ้านชุมชนสระต้นโพธิ์ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต บุกรุกที่ ยืนยันมีเอกสารสิทธิถูกต้อง จังหวัด-ที่ดินตรวจสอบแล้ว พร้อมระบุชาวบ้านที่บุกรุกถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแล้วหลายราย ส่วนเรื่องส่งชายชุดดำข่มขู่ยันไม่มีแน่นอน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) นายสำราญ แสนยานุภาพ พร้อมด้วยนายสุลักษณ์ กุณารักษ์ เจ้าของโฉนดที่ดินเลยที่ 73 ม.3 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายสุธน ทวีสุวรรณ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อจี้แจงข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านชุมชนสระต้นโพธิ์ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ซึ่งบุกรุกเข้าไปอยู่อาศัยในที่ดินโฉนดเลขที่ 73 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ขอให้ช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย โดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้องจากเจ้าของที่ดินที่อ้างสิทธิครอบครอง
โดยนายสุธน ทวีสุวรรณ ทนายความเจ้าของที่ดินกล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวมีหลักฐานการออกโฉนดที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมา กรณีมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าว ทางจังหวัด และที่ดินจังหวัดภูเก็ตได้มีการตรวจสอบแล้ว และผลการตรวจสอบสรุปว่า การออกเอกสารสิทธิออกมาอย่างถูกต้องโดยชอบ ที่ดินแปลงนี้มีการออกเอกสารสิทธิมานานแล้วเดิมเป็นเอกสารสิทธิ 4 โฉนด แต่เมื่อปี 2555 ได้มีการรวมโฉนดเป็นแปลงเดียวกัน ส่วนกรณีผู้บุกรุกที่เป็นชาวบ้านนั้นที่ผ่านมาทางเจ้าของที่ดินได้ฟ้องร้องไปแล้วหลายราย รวมทั้งรายของนายรอนแหม สังข์ขาว ประธานชุมชนสระต้นโพธิ์ และพวก ซึ่งศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ของจำเลย และพวก ซึ่งศาลได้มีการตัดสินไปแล้วประมาณ 10 ราย จากการฟ้องร้องประมาณ 50 คดี
แต่อย่างไรก็ตาม มีบางรายที่ทางเจ้าของที่ดินถอนฟ้อง เนื่องจากผู้ถูกฟ้องจากยินยอมยอมที่จะย้ายออกไปจากพื้นที่เอง ซึ่งมีประมาณ 40 ราย นอกจากนั้น ยังมีการฟ้องร้องเพิ่มเติมอีกประมาณ 40-50 ราย ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการเจรจากับทางผู้บุกรุกมาโดยตลอด หลังจากนี้คงจะไม่มีการเจรจาแล้ว แต่จะใช้กฎหมายดำเนินการแทน ส่วนกรณีที่ผู้บุกรุกอ้างว่ามีการส่งชายชุดดำเข้าไปข่มขู่นั้น ในส่วนของเจ้าของที่ดินยืนยันว่า ไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าว ไม่มีการส่งชายชุดดำไปข่มขู่ผู้บุกรุกแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ผู้บุกรุกอ้างว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่หมดประทานบัตรเหมืองแร่นั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ นาสุธน กล่าวชี้แจงว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินโฉนดดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิมานานแล้ว แต่เพิ่มมารวมโฉนดเป็นแปลงใหญ่ และที่ผ่านมา ไม่เคยมีการสัมปทานขุดแร่อย่างแน่นอน ส่วนประทานบัตรที่นำมากล่าวอ้างนั้นมีการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นประทานบัตรของที่ดินแปลงอื่นที่ไม่เกี่ยวกับแปลงนี้ และยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวมีเอกสารถูกต้องแน่นอน ซึ่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้มีการตรวจสอบแล้ว และยืนยันว่า เป็นการออกเอกสารโดยชอบ ทางเจ้าของที่ดินจึงอยากขอความเป็นธรรมจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกัน และอย่างให้หน่วยงานที่รับผิดชอบชี้แจงข้อเท็จจริงให้แก่ประชาชนได้รับทราบ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) นายสำราญ แสนยานุภาพ พร้อมด้วยนายสุลักษณ์ กุณารักษ์ เจ้าของโฉนดที่ดินเลยที่ 73 ม.3 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายสุธน ทวีสุวรรณ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อจี้แจงข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านชุมชนสระต้นโพธิ์ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ซึ่งบุกรุกเข้าไปอยู่อาศัยในที่ดินโฉนดเลขที่ 73 เดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ขอให้ช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย โดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้องจากเจ้าของที่ดินที่อ้างสิทธิครอบครอง
โดยนายสุธน ทวีสุวรรณ ทนายความเจ้าของที่ดินกล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวมีหลักฐานการออกโฉนดที่ชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมา กรณีมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าว ทางจังหวัด และที่ดินจังหวัดภูเก็ตได้มีการตรวจสอบแล้ว และผลการตรวจสอบสรุปว่า การออกเอกสารสิทธิออกมาอย่างถูกต้องโดยชอบ ที่ดินแปลงนี้มีการออกเอกสารสิทธิมานานแล้วเดิมเป็นเอกสารสิทธิ 4 โฉนด แต่เมื่อปี 2555 ได้มีการรวมโฉนดเป็นแปลงเดียวกัน ส่วนกรณีผู้บุกรุกที่เป็นชาวบ้านนั้นที่ผ่านมาทางเจ้าของที่ดินได้ฟ้องร้องไปแล้วหลายราย รวมทั้งรายของนายรอนแหม สังข์ขาว ประธานชุมชนสระต้นโพธิ์ และพวก ซึ่งศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ของจำเลย และพวก ซึ่งศาลได้มีการตัดสินไปแล้วประมาณ 10 ราย จากการฟ้องร้องประมาณ 50 คดี
แต่อย่างไรก็ตาม มีบางรายที่ทางเจ้าของที่ดินถอนฟ้อง เนื่องจากผู้ถูกฟ้องจากยินยอมยอมที่จะย้ายออกไปจากพื้นที่เอง ซึ่งมีประมาณ 40 ราย นอกจากนั้น ยังมีการฟ้องร้องเพิ่มเติมอีกประมาณ 40-50 ราย ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการเจรจากับทางผู้บุกรุกมาโดยตลอด หลังจากนี้คงจะไม่มีการเจรจาแล้ว แต่จะใช้กฎหมายดำเนินการแทน ส่วนกรณีที่ผู้บุกรุกอ้างว่ามีการส่งชายชุดดำเข้าไปข่มขู่นั้น ในส่วนของเจ้าของที่ดินยืนยันว่า ไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าว ไม่มีการส่งชายชุดดำไปข่มขู่ผู้บุกรุกแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ผู้บุกรุกอ้างว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่หมดประทานบัตรเหมืองแร่นั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ นาสุธน กล่าวชี้แจงว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินโฉนดดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิมานานแล้ว แต่เพิ่มมารวมโฉนดเป็นแปลงใหญ่ และที่ผ่านมา ไม่เคยมีการสัมปทานขุดแร่อย่างแน่นอน ส่วนประทานบัตรที่นำมากล่าวอ้างนั้นมีการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นประทานบัตรของที่ดินแปลงอื่นที่ไม่เกี่ยวกับแปลงนี้ และยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวมีเอกสารถูกต้องแน่นอน ซึ่งทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้มีการตรวจสอบแล้ว และยืนยันว่า เป็นการออกเอกสารโดยชอบ ทางเจ้าของที่ดินจึงอยากขอความเป็นธรรมจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกัน และอย่างให้หน่วยงานที่รับผิดชอบชี้แจงข้อเท็จจริงให้แก่ประชาชนได้รับทราบ