ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดึง ทสม.ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ให้ความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล อ.เมืองภูเก็ต นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ให้แก่สมาชิกอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. โดยมี นางรสริน อมรพิทักษ์พันธ์ นักวิชาสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมหมาย เนาว์ไพร ประธาน ทสม. จังหวัดภูเก็ต สมาชิก ทสม.ในจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นางรสริน อมรพิทักษ์พันธ์ นักวิชาสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นเครื่องมือสำคัญอันดับ 1 ที่ช่วยในการคาดการผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งในทางบวก และทางลบจากการพัฒนาโครงการ หรือกิจการเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และใช้ในการประกอบการตัดสินใจพัฒนาโครงการ หรือกิจการ ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อระบบวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ยังไม่ครอบคลุมไปถึงภาคประชาชน โดยเฉพาะ ทสม.อย่างทั่วถึง ดังนั้น เพื่อให้ ทสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการในการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้แก่ ทสม.โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา ได้จัดอบรมให้แก่ ทสม.ในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัดประกอบด้วย ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ สำหรับในปีนี้สำนักงานกำหนดจัดอบรมให้แก่ ทสม.ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชลบุรี
ด้าน นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตเองในช่วงที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และด้านการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการนำทรัพยากรไปใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และความเสื่อมโทรมของทรัพยากร ระบบนิเวศมีแนวโน้มของการเสียสมดุลมีมลพิษและสารตกค้างจากกระบวนการผลิต และการใช้ประโยชน์ที่ดินเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้กลับคืนสู่สภาพปกติด้วยวิธีการที่เหมาะสม และรวดเร็ว
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อการดำเนินงานในการดูแลรักษา และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยยึดหลักกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องต่อระเบียบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าด้วยอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน พุทธศักราช 2550 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสงวนบำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุล รวมทั้งมีส่วนร่วมในการส่งเสริมบำรุงรักษา และคุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนควบคุม และกำจัดภาวะมลพิษที่มีผลต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ตาม การอบรมในวันนี้จึงมุ่งเน้นเพื่อให้อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านในจังหวัดภูเก็ต เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องหลักการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล อ.เมืองภูเก็ต นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ให้แก่สมาชิกอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. โดยมี นางรสริน อมรพิทักษ์พันธ์ นักวิชาสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมหมาย เนาว์ไพร ประธาน ทสม. จังหวัดภูเก็ต สมาชิก ทสม.ในจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นางรสริน อมรพิทักษ์พันธ์ นักวิชาสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นเครื่องมือสำคัญอันดับ 1 ที่ช่วยในการคาดการผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งในทางบวก และทางลบจากการพัฒนาโครงการ หรือกิจการเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และใช้ในการประกอบการตัดสินใจพัฒนาโครงการ หรือกิจการ ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อระบบวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ยังไม่ครอบคลุมไปถึงภาคประชาชน โดยเฉพาะ ทสม.อย่างทั่วถึง ดังนั้น เพื่อให้ ทสม.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการในการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้แก่ ทสม.โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา ได้จัดอบรมให้แก่ ทสม.ในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัดประกอบด้วย ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ สำหรับในปีนี้สำนักงานกำหนดจัดอบรมให้แก่ ทสม.ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชลบุรี
ด้าน นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตเองในช่วงที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ และด้านการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการนำทรัพยากรไปใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และความเสื่อมโทรมของทรัพยากร ระบบนิเวศมีแนวโน้มของการเสียสมดุลมีมลพิษและสารตกค้างจากกระบวนการผลิต และการใช้ประโยชน์ที่ดินเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้กลับคืนสู่สภาพปกติด้วยวิธีการที่เหมาะสม และรวดเร็ว
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อการดำเนินงานในการดูแลรักษา และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยยึดหลักกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องต่อระเบียบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าด้วยอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน พุทธศักราช 2550 ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสงวนบำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุล รวมทั้งมีส่วนร่วมในการส่งเสริมบำรุงรักษา และคุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนควบคุม และกำจัดภาวะมลพิษที่มีผลต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ตาม การอบรมในวันนี้จึงมุ่งเน้นเพื่อให้อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านในจังหวัดภูเก็ต เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องหลักการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ต่อไป