ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ฉุนจัด ออก 6 มาตรการแก้ปัญหาขุดตักหน้าดิน หลังพบภูเขาในภูเก็ตกลายเป็นสีแดง เหตุมีการขุดตักหน้าดินออกไปจำนวนมาก สั่งหน่วยงานท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการขั้นเด็ดขาด ไม่ทำตามมาตรการเอาผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมลุยจับคนทำผิดเอง
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพบสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ วันนี้ (10 มิ.ย.) ถึงปัญหาการขุดตักดินบริเวณภูเขาใยพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ปัจจุบันภูเขาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหลายๆ จุดมีการขุดตักดิน เพื่อขายบ้าง เพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบ้าง จนทำให้ภูเขากลายเป็นภูเขาดิน ไม่มีความเป็นสีเขียวของต้นไม้เหลืออยู่เลย ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มักจะได้รับคำตอบว่า การขุดดินบนภูเขาเหล่านั้นมีมานานแล้ว บางจุดก็หยุดขุดไปแล้ว แต่ไม่มีคำตอบว่ามีจุดไหนบ้างที่หยุดขุด หรือกำลังอยู่จะระหว่างการดำเนินการ
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน ตนจึงได้ออกมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการขุดตักหน้าดินที่ผิดกฎหมายในจังหวัดภูเก็ตขึ้นมา 6 มาตรการ เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบปฏิบัติตาม ซึ่งจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เห็นผลอย่างชัดเจน สำหรับมาตรการทั้ง 6 มาตรการ ประกอบด้วย 1.ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 พิจารณาออกใบรับแจ้งการขุดดินด้วยความรอบคอบ และให้ถือปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้มีการตรวจสอบพื้นที่ที่จะขอขุดดิน เพื่อให้ทราบข้อมูลทั้งในด้านที่ตั้ง สภาพของแปลงที่ดิน (เป็นที่ราบ, ภูเขา, เชิงเขา, ความลาดชัน ฯลฯ) ความสูงของพื้นที่ ประเภทของที่ดินตามประกาศผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต และประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเอกสารสิทธิ และผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาออกใบรับแจ้งด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาจขอความร่วมมือไปยังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ในการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตรวจสอบสถานที่ที่ขอทำการขุดด้วยก็ได้
2.ห้ามมิให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีการออกใบรับแจ้งการขุดดินในพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกิน 80 เมตร หรือมีความลาดชันเฉลี่ยเกินร้อยละ 35 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดขอบเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2553 ข้อ 12(11) 3.การขอใบรับแจ้งการขุดดิน กรณีที่มีความลึกระดับพื้นที่ดินเกิน 3 เมตร หรือมีพื้นที่ปากบ่อเกิน 10,000 ตารางเมตร ผู้ขอต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ประกอบประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องกำหนดพื้นที่ และมาตรการสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2553 ข้อ 13(5) โดยรายงานต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตามประกาศดังกล่าวก่อน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจึงจะนำมาประกอบการพิจารณาออกใบรับแจ้งการขุดดินตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
4.การขุด ตัก ลอก หรือดูดทรายหรือดิน เพื่อนำขึ้นมาใช้ในการก่อสร้าง เพื่อจำหน่ายทางการ คือ เป็นการปะกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ประเภท หรือชนิดโรงงาน ลำดับที่ 3(2) ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 จะต้องได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดก่อน จึงจะประกอบกิจการโรงงานได้ 5.เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกใบรับแจ้งการขุดดินแก่ผู้ขอรายใดแล้ว ขอให้ส่งสำเนาใบรับแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการขุดดินและหรือถมดินระดับจังหวัด ที่ได้แต่งตั้งตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 563/2554 ลง 8 มี.ค.2554 ภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันออกใบรับแจ้ง และ 6.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ออกสำรวจการขุดดินในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ทั้งที่หยุดดำเนินการแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ ว่าได้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่าแปลงใดมีการกระทำผิดให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น และพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดต่อไป ทั้งนี้ ได้รายงานผลการสำรวจตามแบบที่ส่งมาพร้อมนี้
ทั้งนี้ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และห้ามปล่อยปละละเลยให้มีการขุดดินในพื้นที่ที่รับผิดชอบโดยผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นจะถือว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่ จังหวัดจะดำเนินการทั้งทางวินัย และอาญาอย่างเฉียบขาดต่อไป ซึ่งประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในสัปดาห์หน้า เพราะฉะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หาดไม่ปฏิบัติตามถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และหลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่จับกุมผู้ที่ลักลอบขุดดินโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยตัวเอง
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพบสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตหลังใหม่ วันนี้ (10 มิ.ย.) ถึงปัญหาการขุดตักดินบริเวณภูเขาใยพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ปัจจุบันภูเขาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหลายๆ จุดมีการขุดตักดิน เพื่อขายบ้าง เพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบ้าง จนทำให้ภูเขากลายเป็นภูเขาดิน ไม่มีความเป็นสีเขียวของต้นไม้เหลืออยู่เลย ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มักจะได้รับคำตอบว่า การขุดดินบนภูเขาเหล่านั้นมีมานานแล้ว บางจุดก็หยุดขุดไปแล้ว แต่ไม่มีคำตอบว่ามีจุดไหนบ้างที่หยุดขุด หรือกำลังอยู่จะระหว่างการดำเนินการ
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน ตนจึงได้ออกมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการขุดตักหน้าดินที่ผิดกฎหมายในจังหวัดภูเก็ตขึ้นมา 6 มาตรการ เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบปฏิบัติตาม ซึ่งจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เห็นผลอย่างชัดเจน สำหรับมาตรการทั้ง 6 มาตรการ ประกอบด้วย 1.ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 พิจารณาออกใบรับแจ้งการขุดดินด้วยความรอบคอบ และให้ถือปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้มีการตรวจสอบพื้นที่ที่จะขอขุดดิน เพื่อให้ทราบข้อมูลทั้งในด้านที่ตั้ง สภาพของแปลงที่ดิน (เป็นที่ราบ, ภูเขา, เชิงเขา, ความลาดชัน ฯลฯ) ความสูงของพื้นที่ ประเภทของที่ดินตามประกาศผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต และประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเอกสารสิทธิ และผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาออกใบรับแจ้งด้วยทุกครั้ง ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาจขอความร่วมมือไปยังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ในการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตรวจสอบสถานที่ที่ขอทำการขุดด้วยก็ได้
2.ห้ามมิให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีการออกใบรับแจ้งการขุดดินในพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกิน 80 เมตร หรือมีความลาดชันเฉลี่ยเกินร้อยละ 35 ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดขอบเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2553 ข้อ 12(11) 3.การขอใบรับแจ้งการขุดดิน กรณีที่มีความลึกระดับพื้นที่ดินเกิน 3 เมตร หรือมีพื้นที่ปากบ่อเกิน 10,000 ตารางเมตร ผู้ขอต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ประกอบประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องกำหนดพื้นที่ และมาตรการสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ.2553 ข้อ 13(5) โดยรายงานต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตามประกาศดังกล่าวก่อน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจึงจะนำมาประกอบการพิจารณาออกใบรับแจ้งการขุดดินตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
4.การขุด ตัก ลอก หรือดูดทรายหรือดิน เพื่อนำขึ้นมาใช้ในการก่อสร้าง เพื่อจำหน่ายทางการ คือ เป็นการปะกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ประเภท หรือชนิดโรงงาน ลำดับที่ 3(2) ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 จะต้องได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดก่อน จึงจะประกอบกิจการโรงงานได้ 5.เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกใบรับแจ้งการขุดดินแก่ผู้ขอรายใดแล้ว ขอให้ส่งสำเนาใบรับแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการขุดดินและหรือถมดินระดับจังหวัด ที่ได้แต่งตั้งตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 563/2554 ลง 8 มี.ค.2554 ภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันออกใบรับแจ้ง และ 6.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ออกสำรวจการขุดดินในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ทั้งที่หยุดดำเนินการแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ ว่าได้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่าแปลงใดมีการกระทำผิดให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น และพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดต่อไป ทั้งนี้ ได้รายงานผลการสำรวจตามแบบที่ส่งมาพร้อมนี้
ทั้งนี้ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และห้ามปล่อยปละละเลยให้มีการขุดดินในพื้นที่ที่รับผิดชอบโดยผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นจะถือว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่ จังหวัดจะดำเนินการทั้งทางวินัย และอาญาอย่างเฉียบขาดต่อไป ซึ่งประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในสัปดาห์หน้า เพราะฉะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หาดไม่ปฏิบัติตามถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และหลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่จับกุมผู้ที่ลักลอบขุดดินโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยตัวเอง