xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเขื่องในแจ้งจับท่าทราย ลอบขุดทั้งที่ทหารสั่งห้ามแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี - ชาวบ้านเขื่องในรวมตัวประท้วง แจ้งจับท่าทรายลักลอบดูดทราย หลังทหารสั่งให้หยุดกิจการจนกว่ามีการทำประชาคม ต่อใบอนุญาตที่หมดอายุ เบื้องต้นตำรวจรับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน และจะแจ้งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคอุบลราชธานีมาเป็นเจ้าทุกข์ดำเนินคดีต่อไป

วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ สภ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี นายสิงขร ประสารวรรณ พร้อมชาวบ้านชีทวน และบ้านท่าศาลา ต.ชีทวน อ.เขื่องใน ประมาณ 40 คนรวมตัวประท้วงการดูดทรายในบ้านชีทวนและบ้านท่าศาลา ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมกับนายอำเภอ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบการประกอบกิจการดูดทรายในแม่น้ำชีของท่าทราย 3 แห่ง ประกอบด้วย ท่าทรายอินแปลง 1999 ท่าทรายมาทวี และท่าทรายไผ่สีทอง

พบท่าทรายอินแปลง 1999 และท่าทรายไผ่สีทอง ใบอนุญาตหมดอายุตั้งแต่ปี 2556 และจังหวัดยังไม่ได้ต่อใบอนุญาตใช้ดูดทรายให้ใหม่ ส่วนท่าทรายมาทวีอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตดูดทราย แต่ได้ทำการดูดทรายก่อน รวมทั้งท่าทรายทั้ง 3 แห่งยังก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามเส้นทางที่รถขนทรายผ่าน มีทรายตกหล่นเรี่ยราด ทำให้ถนนในหมู่บ้านพังเสียหาย ชาวบ้านไม่สามารถลงจับปลาในแม่น้ำในจุดที่มีการดูดทราย

ซึ่งการหารือในวันที่ 5 ก.พ. นายวรานนท์ ยิ้มมงคล นายอำเภอและทหาร สั่งให้ผู้ประกอบการทั้ง 3 แห่งหยุดการดูดทราย เพราะทำผิดเงื่อนไข ยังไม่ได้รับอนุญาต บางจุดดูดทรายใกล้ตลิ่ง ทำให้ตลิ่งทรุดและพังทลายลงไป จึงให้ทำประชาคมและรอให้จังหวัดต่อหรือออกใบอนุญาตดูดทรายก่อน

แต่ปรากฏว่าท่าทรายสองในสามแห่งยังลักลอบดูดและขนทรายออกนอกพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้แจ้งเรื่องให้ทหารและอำเภอทราบเป็นระยะ แต่ไม่มีการเข้ามาจับกุม วันนี้ชาวบ้านทั้งหมดจึงพร้อมใจนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีท่าทรายอินแปลง 1999 และท่าทรายมาทวี ข้อหาลักทรัพย์ของทางราชการต่อ พ.ต.อ.สุทธกาญจน์ ฟักทอง ผกก.สภ.เขื่องใน

เบื้องต้นได้รับแจ้งความจากชาวบ้านไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากผู้ร้องทุกข์ที่ถูกต้องคือ สำนักงานการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงานการเจ้าท่าฯ มาให้ปากคำ และให้ชาวบ้านเป็นพยานดำเนินคดีผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ต่อไป

ด้านนายสิงขรกล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ท้วงติงกับเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เกี่ยวกับการลักลอบดูดทรายมาตลอด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการ จึงรวมตัวมาแจ้งความในวันนี้ และได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมเจ้าท่า ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายธีระวัฒน์ พวังคาม ผู้อำนวยการสำนักงานการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี เพราะมีท่าทีสนับสนุนผู้ประกอบการ ไม่ดำเนินการต่อผู้ที่ทำผิดกฎหมาย

รวมทั้งเมื่อชาวบ้านไปตรวจสอบระเบียบว่าด้วยการให้อนุญาตดูดทราย พบว่าจุดที่ตั้งของท่าทรายสองแห่งไม่สามารถให้ใบอนุญาตได้เพราะอยู่ในพื้นที่คุ้งน้ำ การดูดทรายทำให้เกิดการกัดเซาะตลิ่ง และเปลี่ยนทิศทางการไหลของลำน้ำ ความลาดชันของตลิ่งเกินกว่า 70 องศา และอยู่ห่างจากสะพานไม่ถึง 1 กิโลเมตร

เมื่อเห็นความผิดปกติดังกล่าวชาวบ้านจึงออกมารวมตัว แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อท่าทรายทั้งสองแห่ง ส่วนท่าทรายไผ่สีทองไม่พบการฝ่าฝืนคำสั่ง จึงยังไม่เอาผิด



กำลังโหลดความคิดเห็น