ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านกว่า 100 คนบุกศาลากลางภูเก็ต เพื่อขอพบผู้ว่าฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าปัญหาการปักเสาไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ ต.ป่าคลอก จ.ภูเก็ต หวั่นถูกรอนสิทธิ ผู้ว่าฯ เตรียมประสานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์นี้ ขณะที่ตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตระบุยังอยู่ในขั้นตอนการเลือกแนวปักเสาเท่านั้น
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ชาวบ้านป่าคลอก และบ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กว่า 100 คน นำโดย นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายสุรัยมาลย์ แก้วงามดี นายสำราญ พานดำ อดีตผู้ใหญ่บ้านพารา รวมตัวเรียกร้องขอพบ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องการสร้างแนวเสาไฟฟ้าแสงสูง 500 KV ผ่านในพื้นที่บ้านพารา และบ้านป่าคลอก ต.ป่าคลอด จ.ภูเก็ต เพื่อขอให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทบทวนการวางแนวปักเสาไฟฟ้าแรงสูง 500 KV เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมาเรียกร้องในครั้งนี้ ปรากฏว่า ในช่วงเช้า นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ติดภารกิจเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการซ้อมแผนรับมือสึนามิถล่มในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมี นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายทวีศักดิ์ ศรีราชยา ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรุงเทพมหานคร นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ร่วมรับฟังปัญหาความเดือดร้อน และข้อเสนอแนะของชาวบ้านที่เดินทางมาร้องเรียนในครั้งนี้ แต่ในส่วนของกลุ่มผู้เรียกร้องยืนยันที่จะพบกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เท่านั้น
สำหรับบรรยากาศในการเดินทางมาร้องเรียนในครั้งนี้ มีการนำป้ายผ้าเขียนขอความต่างๆ มาชูเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วย เช่น “ชาวป่าคลอก-พารา คัดค้านไฟฟ้าแรงสูง” “ให้เอาสายไฟฟ้าลงดิน สร้างถนน” “ขยายไฟแรงสูงที่แนวเดิมชาวบ้านไม่เดือดร้อน” และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งล้วนไม่เห็นด้วยต่อการสร้างแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ทหารทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต กว่า 20 นาย มาร่วมดูแลความปลอดภัยในระหว่างที่มีการรวมตัวเรียกร้องขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
นายสำราญ พานดำ อดีตผู้ใหญ่บ้านพารา กล่าวถึงการวางแนวปักเสาไฟฟ้าแรงสูง 500 KV ว่า การสร้างแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงในแนวเส้นทางใหม่ ตนเองซึ่งเป็นชาวป่าคลอก รวมทั้งชาวบ้านบ้านพาราได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก สำหรับการทำแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตนั้น ตน และชาวบ้านไม่คัดค้า นและไม่ได้ต้องการถ่วงความเจริญของจังหวัด แต่การปักแนวเสาไฟฟ้าที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตกำลังจะดำเนินการนั้นทำให้ชาวบ้าน และตนถูกรอนสิทธิในที่ดิน เช่น ที่ทำมาหากินใต้แนวเสาไฟฟ้าแรงสูงกว้าง 60 เมตร ยาวตลอดแนวพาดผ่านแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
เอกสารสิทธิโดนรอนสิทธิลง มูลค่าราคาที่ดินตกต่ำ ที่ดินข้างเคียงแม้จะไม่โดนสายส่งพาดผ่าน แต่ก็ได้รับผลกระทบจากราคาที่ตกต่ำลงมาเช่นกัน เพราะไม่มีใครอยากไปอยู่ใกล้ๆ สายส่งแรงสูง ต้องโค่นไม้ทำลายป่า ผลของสนามแม่เหล็กส่งผลต่อสุขภาพร่างกายเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง และถูกไฟฟ้าช็อต และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งค่าชดเชยได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร นอกจากนี้ การขยายแนวแรงสูงใหม่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นวงกว้างหลายร้อยครัวเรือน และวิถีการใช้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปจากเดิม
อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 11.40 น. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมกับกล่าวว่า ทางจังหวัดภูเก็ตเห็นความสำคัญถึงปัญหาเดือดร้อนของชาวบ้าน และพร้อมจะรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยทางจังหวัดภูเก็ต จะประสานทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ให้ลงมารับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน และชี้แจงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งหลังจากได้สถานที่ และวันเวลาที่ชัดเจนจะแจ้งประสานไปยังชาวบ้านอีกครั้งเพื่อให้มาร่วมแสดงความคิดเห็นกรณีที่เกิดขึ้น
ขณะที่นาย ทวีศักดิ์ ศรีราชยา ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก มีปัญหาไฟตกไฟดับเกิดขึ้นต่อเนื่อง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง มีแผนที่จะนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาใช้ในพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งจะต้องมีการปักเสาไฟแรงสูงในหลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้การดำเนินการนั้นยังอยู่ระหว่างการสำรวจแนว และการเลือกแนวทางที่เหมาะสมในการปักเสาไฟฟ้าเท่านั้น
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ชาวบ้านป่าคลอก และบ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กว่า 100 คน นำโดย นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายสุรัยมาลย์ แก้วงามดี นายสำราญ พานดำ อดีตผู้ใหญ่บ้านพารา รวมตัวเรียกร้องขอพบ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องการสร้างแนวเสาไฟฟ้าแสงสูง 500 KV ผ่านในพื้นที่บ้านพารา และบ้านป่าคลอก ต.ป่าคลอด จ.ภูเก็ต เพื่อขอให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทบทวนการวางแนวปักเสาไฟฟ้าแรงสูง 500 KV เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมาเรียกร้องในครั้งนี้ ปรากฏว่า ในช่วงเช้า นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ติดภารกิจเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการซ้อมแผนรับมือสึนามิถล่มในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมี นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายทวีศักดิ์ ศรีราชยา ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรุงเทพมหานคร นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ร่วมรับฟังปัญหาความเดือดร้อน และข้อเสนอแนะของชาวบ้านที่เดินทางมาร้องเรียนในครั้งนี้ แต่ในส่วนของกลุ่มผู้เรียกร้องยืนยันที่จะพบกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เท่านั้น
สำหรับบรรยากาศในการเดินทางมาร้องเรียนในครั้งนี้ มีการนำป้ายผ้าเขียนขอความต่างๆ มาชูเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วย เช่น “ชาวป่าคลอก-พารา คัดค้านไฟฟ้าแรงสูง” “ให้เอาสายไฟฟ้าลงดิน สร้างถนน” “ขยายไฟแรงสูงที่แนวเดิมชาวบ้านไม่เดือดร้อน” และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งล้วนไม่เห็นด้วยต่อการสร้างแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ทหารทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต กว่า 20 นาย มาร่วมดูแลความปลอดภัยในระหว่างที่มีการรวมตัวเรียกร้องขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
นายสำราญ พานดำ อดีตผู้ใหญ่บ้านพารา กล่าวถึงการวางแนวปักเสาไฟฟ้าแรงสูง 500 KV ว่า การสร้างแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงในแนวเส้นทางใหม่ ตนเองซึ่งเป็นชาวป่าคลอก รวมทั้งชาวบ้านบ้านพาราได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก สำหรับการทำแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตนั้น ตน และชาวบ้านไม่คัดค้า นและไม่ได้ต้องการถ่วงความเจริญของจังหวัด แต่การปักแนวเสาไฟฟ้าที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตกำลังจะดำเนินการนั้นทำให้ชาวบ้าน และตนถูกรอนสิทธิในที่ดิน เช่น ที่ทำมาหากินใต้แนวเสาไฟฟ้าแรงสูงกว้าง 60 เมตร ยาวตลอดแนวพาดผ่านแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
เอกสารสิทธิโดนรอนสิทธิลง มูลค่าราคาที่ดินตกต่ำ ที่ดินข้างเคียงแม้จะไม่โดนสายส่งพาดผ่าน แต่ก็ได้รับผลกระทบจากราคาที่ตกต่ำลงมาเช่นกัน เพราะไม่มีใครอยากไปอยู่ใกล้ๆ สายส่งแรงสูง ต้องโค่นไม้ทำลายป่า ผลของสนามแม่เหล็กส่งผลต่อสุขภาพร่างกายเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง และถูกไฟฟ้าช็อต และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งค่าชดเชยได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร นอกจากนี้ การขยายแนวแรงสูงใหม่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นวงกว้างหลายร้อยครัวเรือน และวิถีการใช้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปจากเดิม
อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 11.40 น. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมกับกล่าวว่า ทางจังหวัดภูเก็ตเห็นความสำคัญถึงปัญหาเดือดร้อนของชาวบ้าน และพร้อมจะรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยทางจังหวัดภูเก็ต จะประสานทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ให้ลงมารับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน และชี้แจงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งหลังจากได้สถานที่ และวันเวลาที่ชัดเจนจะแจ้งประสานไปยังชาวบ้านอีกครั้งเพื่อให้มาร่วมแสดงความคิดเห็นกรณีที่เกิดขึ้น
ขณะที่นาย ทวีศักดิ์ ศรีราชยา ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการก่อสร้างระบบส่งไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก มีปัญหาไฟตกไฟดับเกิดขึ้นต่อเนื่อง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง มีแผนที่จะนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาใช้ในพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งจะต้องมีการปักเสาไฟแรงสูงในหลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้การดำเนินการนั้นยังอยู่ระหว่างการสำรวจแนว และการเลือกแนวทางที่เหมาะสมในการปักเสาไฟฟ้าเท่านั้น