xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มคนไทยไร้ที่ดินทำกินกว่า 300 คน บุกยึดสวนปาล์มยูนิวานิช ที่กระบี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระบี่ - กลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกิน กว่า 300 คน บุกยึดพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชนในพื้นที่ ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ที่หมดสัมปทาน เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หลังพบมีการบุกรุกที่ดินเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองพระยา จำนวนกว่า 2 หมื่นไร่ แฉบริษัทสอดไส้หมกเม็ดทำประโยชน์มานานกว่า 30 ปี พร้อมกับที่ดินที่ได้รับสัมปทาน

วันนี้ (30 พ.ค.) สมาคมคนไทยไร้ที่ทำกิน นำโดย นายสุมลตรี สุขดำ นายกสมาคมคนไทยไร้ที่ทำกิน กว่า 300 คน ได้เดินทางเข้าไปปักหลักยึดพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของ บริษัท ยูนิวานิช (เจียรวานิช) จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ ม.7 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ พร้อมปลูกสร้างที่พักชั่วคราว ภายหลังตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมัน และมีการบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองพระยา เนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ซึ่งอยู่ใน ม.5 ม.7 และ ม.8 ต.ปลายพระยา

และเป็นพื้นที่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตสัมปทานของบริษัทดังกล่าวซึ่งหมดอายุไปแล้วเมื่อปี 2556 จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบ และยึดพื้นที่คืน เนื่องจากบริษัทได้เข้าไปทำประโยชน์ไม่น้อยกว่า 30 ปี โดยที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีการดำเนินการใดๆ

นายสุมลตรี กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ทำกินเข้ามายึดพื้นที่ปลูกปาล์มของบริษัทยูนิวานิช เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบกรณีบริษัทเข้ามาบุกรุกทำประโยชน์ นอกเหนือจากพื้นที่ที่ได้รับสัมปทาน ถือเป็นการบุกรุก และผิดเงื่อนไขการสัมปทานด้วย แต่กลับปล่อยให้มีการทำประโยชน์ต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 30 ปี เท่ากับเป็นการสอดไส้หมกเม็ดตักตวงผลประโยชน์ทับซ้อนในที่ดินของรัฐ ดังนั้น กลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ดินทำกินเห็นว่า บริษัทยูนิฯ ไม่มีความชอบธรรม จึงได้รวมตัวกันเข้ามายึดพื้นที่เพื่อให้มีการตรวจสอบ และนำกลับคืนมาเป็นของรัฐ และจัดสรรให้คนจนไร้ที่ดินทำกินตามมติ ครม.2546 ซึ่งที่ผ่านมา รัฐสูญเสียผลประโยชน์ไปแล้วจำนวนมหาศาล

นายสุมลตรี กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2557 ทางสมาคมคนไทยไร้ที่ทำกิน ได้เข้ามายึดพื้นที่หมดสัมปทานของบริษัทยูนิวานิชฯ ในบริเวณใกล้กัน เนื่องจากพบว่า บริษัทยังทำประโยชน์อยู่ทั้งที่ที่ดินตกเป็นของรัฐ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ผลักดันออกจากพื้นที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งขณะนี้ ทางกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนก็ได้เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือ และที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้ามาสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของชาวบ้านด้วย ซึ่งจะติดตามผลกันต่อไป




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น