พังงา - รองประธานคณะกรรมาธิการสังคม เข้าตรวจเยี่ยม มอบสิ่งของเครื่องใช้ และแก้ไข้ปัญหาชาวโรฮีนจาในจังหวัดพังงา พร้อมให้ภาครัฐจะมีการดำเนินการร่วมกับนานาประเทศในการแก้ปัญหาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
วันนี้ (25 พ.ค.) นางสุวรรณี สิริเวชซะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมคณะกรรมธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุคนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เดินทางมอบสิ่งของเครื่องใช้ และรับฟังการแก้ไข้ปัญหาชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้าเมือง ที่บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดพังงา อ.ตะกั่วป่า โดยมี นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายสมชาย บำรุงทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายทินกร มุสิกวัตร ปลัดจังหวัดพังงา นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า และนางดารารัตน์ สุเทศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ให้การตอนรับ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มีสตรี และเด็กชาวโรฮีนจา และบังกลาเทศอาศัยอยู่ จำนวน 78 คน มีการพักแยกเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี พักอยู่กับครอบครัวที่เป็นสตรี ส่วนเด็กผู้ชายที่มีอายุเกิน 10 ปี ก็อาศัยอยู่ด้านข้างในอาคารที่พักพิง สำหรับภายในห้องดูมีความสะอาดเรียบร้อย มีการแบ่งหน้าที่ของแต่ละฝ่าย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น มีการฝึกให้ทำของชำร่วย ของที่ระลึก ทำให้เด็กและสตรีที่อาศัยอยู่อย่างมีความสุข
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ทางจังหวัดพังงา ได้มีการแก้ไข้เรื่องการหลบหนีเข้าเมืองของกลุ่มชาวโรฮีนจามาตลอด ตั้งแต่ 1 ปีที่มาผ่าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองตะกั่วป่า ทำงานร่วมกันกวดขันตรวจตรากลุ่มชาวโรฮีนจาที่เดินทางหลบหนีเข้าเมืองรอยต่อจังหวัดระนอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ซึ่งมีการตั้งด่านสกัดบนเส้นทางที่ล่อแหลม จุดตรวจบ้านทับกำ เป็นรอยต่อระหว่างตะกั่วป่า-อ.คุระบุรี มุ่งหน้ามาจาก จ.ระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขบวนการค้ามนุษย์ และของผิดกฎหมายต่างๆ ที่สามารถผ่านจุดนี้ไปได้จะสามารถผ่านไปยังภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวจะใช้เส้นทางนี้ในการขนย้าย พร้อมทั้งจัดชุดลาดตระเวนทั้งทางบก และทางทะเล และสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลข้าวปลาอาหารให้เป็นอย่างดีตามหลักมนุษยธรรม และตามหลักสากลมาโดยตลอด
ด้าน นางสุวรรณี สิริเวชซะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาชาวโรฮีนจา ในขณะนี้ต้องมีการแก้ปัญหาเรื่องของ พ.ร.บ.การหลบหนีเข้าเมืองในบางส่วน ซึ่งทาง สนช.อาจจะต้องมีการแก้ไข้กฎหมาย ว่าจะมีการแก้ปัญหาอย่างไร โดยทางภาครัฐจะมีการดำเนินการร่วมกับนานาประเทศในการแก้ปัญหาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งขณะนี้มีการคัดแยกชาวโรฮีนจาผู้หญิง เด็ก ไว้ที่บ้านพักเด็กและสตรี และผู้ชายได้ควบคุมไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา
ส่วนปัญหาของจำนวนคนที่มีมากกว่าสถานที่พักพิงก็เป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะมีการแก้ไข เพราะว่าจำนวนคนที่เข้ามามีเป็นจำนวนมาก สิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำคือ ต้องหาที่พักพิงก่อน ในส่วนของเรื่องการเคลื่อนย้ายจำนวนคนเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องมีการพูดคุยกันในหลายๆ ประเทศ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ประเทศไทยจะมาแก้ปัญหาเพียงประเทศเดียว เป็นปัญหาที่เกี่ยวโยงกันหลายประเทศ
นางสุวรรณี ยังได้กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความห่วงใยมาถึงพี่น้องชาวโรฮีนจาว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร ในส่วนของการนำเสนอคงต้องดูกันหลายๆ เรื่อง บางเรื่องอาจต้องมีการแก้ไขในระยะสั้น บางเรื่องอาจต้องมีการแก้ไขในระยะยาว
วันนี้ (25 พ.ค.) นางสุวรรณี สิริเวชซะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมคณะกรรมธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุคนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เดินทางมอบสิ่งของเครื่องใช้ และรับฟังการแก้ไข้ปัญหาชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้าเมือง ที่บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดพังงา อ.ตะกั่วป่า โดยมี นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายสมชาย บำรุงทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายทินกร มุสิกวัตร ปลัดจังหวัดพังงา นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า และนางดารารัตน์ สุเทศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ให้การตอนรับ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มีสตรี และเด็กชาวโรฮีนจา และบังกลาเทศอาศัยอยู่ จำนวน 78 คน มีการพักแยกเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี พักอยู่กับครอบครัวที่เป็นสตรี ส่วนเด็กผู้ชายที่มีอายุเกิน 10 ปี ก็อาศัยอยู่ด้านข้างในอาคารที่พักพิง สำหรับภายในห้องดูมีความสะอาดเรียบร้อย มีการแบ่งหน้าที่ของแต่ละฝ่าย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น มีการฝึกให้ทำของชำร่วย ของที่ระลึก ทำให้เด็กและสตรีที่อาศัยอยู่อย่างมีความสุข
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ทางจังหวัดพังงา ได้มีการแก้ไข้เรื่องการหลบหนีเข้าเมืองของกลุ่มชาวโรฮีนจามาตลอด ตั้งแต่ 1 ปีที่มาผ่าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองตะกั่วป่า ทำงานร่วมกันกวดขันตรวจตรากลุ่มชาวโรฮีนจาที่เดินทางหลบหนีเข้าเมืองรอยต่อจังหวัดระนอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ซึ่งมีการตั้งด่านสกัดบนเส้นทางที่ล่อแหลม จุดตรวจบ้านทับกำ เป็นรอยต่อระหว่างตะกั่วป่า-อ.คุระบุรี มุ่งหน้ามาจาก จ.ระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขบวนการค้ามนุษย์ และของผิดกฎหมายต่างๆ ที่สามารถผ่านจุดนี้ไปได้จะสามารถผ่านไปยังภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวจะใช้เส้นทางนี้ในการขนย้าย พร้อมทั้งจัดชุดลาดตระเวนทั้งทางบก และทางทะเล และสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลข้าวปลาอาหารให้เป็นอย่างดีตามหลักมนุษยธรรม และตามหลักสากลมาโดยตลอด
ด้าน นางสุวรรณี สิริเวชซะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาชาวโรฮีนจา ในขณะนี้ต้องมีการแก้ปัญหาเรื่องของ พ.ร.บ.การหลบหนีเข้าเมืองในบางส่วน ซึ่งทาง สนช.อาจจะต้องมีการแก้ไข้กฎหมาย ว่าจะมีการแก้ปัญหาอย่างไร โดยทางภาครัฐจะมีการดำเนินการร่วมกับนานาประเทศในการแก้ปัญหาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งขณะนี้มีการคัดแยกชาวโรฮีนจาผู้หญิง เด็ก ไว้ที่บ้านพักเด็กและสตรี และผู้ชายได้ควบคุมไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา
ส่วนปัญหาของจำนวนคนที่มีมากกว่าสถานที่พักพิงก็เป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะมีการแก้ไข เพราะว่าจำนวนคนที่เข้ามามีเป็นจำนวนมาก สิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำคือ ต้องหาที่พักพิงก่อน ในส่วนของเรื่องการเคลื่อนย้ายจำนวนคนเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องมีการพูดคุยกันในหลายๆ ประเทศ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ประเทศไทยจะมาแก้ปัญหาเพียงประเทศเดียว เป็นปัญหาที่เกี่ยวโยงกันหลายประเทศ
นางสุวรรณี ยังได้กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากความห่วงใยมาถึงพี่น้องชาวโรฮีนจาว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร ในส่วนของการนำเสนอคงต้องดูกันหลายๆ เรื่อง บางเรื่องอาจต้องมีการแก้ไขในระยะสั้น บางเรื่องอาจต้องมีการแก้ไขในระยะยาว
