ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - องค์กรมุสลิมใน จ.สงขลา และประเทศมาเลเซีย ร่วมละหมาดให้ชาวโรฮีนจาที่เสียชีวิต พร้อมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการค้ามนุษย์
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มัสยิดดารุสลาม บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ประธานเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมกันตัวแทนสภาเครือข่ายช่วยเหลือโรฮีนจาประเทศมาเลเซีย คณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ผู้นำศาสนา และชาวมุสลิมในอ.สะเดา ร่วมกันประกอบพิธีละหมาดญานาซะห์ หรือละหมาดผู้เสียชีวิต ให้แก่ชาวโรฮีนจา จำนวน 13 ศพ เป็นชาย 12 ศพ หญิง 1 ศพ ที่เสร็จสิ้นจากการตรวจพิสูจน์ของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ก่อนที่จะนำไปฝังที่กุโบร์ หรือสุสานมุสลิม บ้านเกาะใหญ่ ม.8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
นอกจากนี้ ทางสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี พร้อมตัวแทนผู้เข้าร่วมพิธีได้ออกแถลงการณ์กรณีพบศพโรฮีนจาจำนวนมากที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งใน และต่างประเทศ ทำให้ไทยถูกจับตามองในเรื่องการค้ามนุษย์ และเป็นประเทศที่ผู้ลี้ภัยจากหลายประเทศมักใช้เป็นแหล่งพักพิงก่อนที่จะเดินทางไปประเทศที่สาม จึงมีความห่วงใยต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ห่วงใยต่อสวัสดิภาพ เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของชาวโรฮีนจา ซึ่งต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเช่นเดียวกับคนทั่วๆ ไป
และในแถลงการณ์ยังได้ขอบคุณรัฐบาลที่ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการค้ามนุษย์ พร้อมเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล 6 ข้อ คือ 1.ให้รัฐบาลไทยดำเนินการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง 2.ขอให้รัฐบาลดำเนินการทางการทูตเพื่อกดดันรัฐบาลพม่า ในการแก้ไขปัญหาการกดขี่มุสลิมโรฮีนจา 3.ขอให้รัฐบาลคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนในการทางกฎหมาย การจัดที่อยู่อาศัย อาหารที่ถูกต้องตามศาสนาอิสลาม 4.กรณีชาวโรฮีนจาบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ขอให้ติดต่อองค์กรทางศาสนาอิสลาม
5.สภาเครือข่ายและองค์กรมุสลิม ขอประณามบุคคล หรือคณะบุคคลใดๆ ที่สนับสนุนขบวนการค้ามนุษย์ และการซ้ำเติมผู้ตกทุกข์ เป็นการกระทำที่ผิดหลักศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรง สะท้อนถึงความใจบาปหยาบช้าที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ 6.ให้รัฐบาลไทยประสานขอความร่วมมือกับรัฐบาลพม่า และรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
