ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตัวแทนสำนักจุฬาราชมนตรีและคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา นำร่างไร้วิญญาณของชาวโรฮิงญา 20 คน ไปทำพิธีฝังตามศาสนาอิสลาม ส่วนอีก 6 ศพอยู่ในระหว่างการตรวจดีเอ็นเอ ขณะที่ตำรวจเรียกประชุมด่วนเพื่อเร่งคลี่คลายคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (3 พ.ค.) ตัวแทนสำนักจุฬาราชมนตรีและคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ได้นำศพของชาวโรฮิงญาจำนวน 20 ศพ เป็นชาย 19 ศพและหญิง 1 ศพ ที่ถูกเก็บไว้ที่มูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ไปประกอบพิธีทางศาสนาทั้งการละหมาดและฝังที่กุโบร์ท่าไทร หมู่ 11 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา โดยเป็นการฝังหมู่รวมกันในหลุมเดียวทั้ง 20 ศพ ซึ่งเป็นการฝังถาวร หลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการชันสูตร ตรวจเอกลักษณ์บุคคลและเก็บดีเอ็นเอ เพื่อประกอบสำนวนทางคดีแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศที่หดหู่ของชาวบ้านที่มาร่วมพิธี ส่วนศพชาวโรฮิงญาที่เหลืออีก 6 ศพยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
นอกจากนี้ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 ,พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย นอง ผบช.ภ.9 ,พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จ.สงขลา ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีโรฮิงญา ที่พบศพ จำนวน 26 ศพ ที่เทือกเขาแก้ว อ.สะเดา ประกอบด้วย ตำรวจสืบจังหวัดสงขลา ตชด. กองปราบ และตำรวจ ปาดังเบซาร์ กว่า 20 นาย เข้าประชุม เพื่อทราบถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งชุดทำงานคลี่คลายในคดีนี้ โดยใช้เวลาในการประชุมนานประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ต่อจากนั้น พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนถึงผู้ใด ก็จะออกหมายจับถึงผู้นั้น ซึ่งหลังจากสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานแล้วก็จะขอหมายจับจากศาล แต่ในชั้นนี้ขอปิดไว้ก่อนเพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี
ในส่วนของผู้ครองครองที่ดินที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเป็นเขตป่าสงวน แต่จะดำเนินการสอบสวนว่าใครเป็นผู้ครอบครองโดยจะสอบจากชาวบ้านที่พักอาศัยแถวนั้น ว่าใครเป็นผู้ครอบครองโดยเข้าใจว่าใครใช้ประโยชน์ และใครนำพา หลังสอบและรวบรวมหลักฐาน ก็จะขอให้ศาลออกหมายจับก่อน โดนจะแจ้งสามข้อหาหนัก คือค้ามนุษย์ฯ,นำพาฯ และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว