xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.แถลงจับ 4 แก๊งค้ามนุษย์ ย้ายฟ้าผ่า 2 นายตำรวจสะเดา เซ่นคดี 26 ศพโรฮิงญา (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามคดีโรฮิงญา ซึ่งมีการออกหมายจับแล้ว 8 คน จับได้แล้ว 4 คน พร้อมนำตัวมาแถลงข่าว เผยเตรียมออกหมายจับเพิ่มโดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่เป็นเจ้าของแคมป์ ขณะที่นายตำรวจใน อ.สะเดา ถูกย้ายเซ่นคดีนี้แล้ว 2 ราย
 



 
ความคืบหน้าการคลี่คลายคดีแคมป์ และสุสานฝังศพชาวโรฮิงญาบนยอดเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 26 คน
 

ในวันนี้ (4 พ.ค.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.สงขลาประชุม และรับฟังสรุปความคืบหน้าคดี รวมทั้งวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ โดยล่าสุด ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 8 คน ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร่วมกันเรียกค่าไถ่
 

 
ในจำนวนนี้จับกุมได้แล้ว 4 คน ประกอบด้วย นายอ่าสัน หรือบังสัน อินทธนู อายุ 42 ปี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ นายร่อเอน สนยาแหละ อายุ 41 ปีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ ทั้ง 2 คน ทำหน้าที่จัดหาเสบียง นายอาหลี ล่าเม๊าะ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ ทำหน้าที่ควบคุมแคมป์ และนายซอ เนียง อานู หรืออันวา อายุ 40 ปี ชาวพม่า ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ ยังยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุน 8 นัด และซองพก 1 ซอง และยังแจ้งข้อหาในอ่าสัน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 1 ข้อหา พร้อมกับได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาแถลงต่อสื่อมวลชน ซึ่งทั้ง 3 คน ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
 

 
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า จะมีการออกหมายจับเพิ่มอีกหลายคน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักการเมืองท้องถิ่นหากพบว่าเกี่ยวข้องก็จะจับกุมทั้งหมด ส่วนผลการตรวจสอบเก็บหลักฐานภายในแคมป์เจ้าหน้าที่พบศพทั้งหมด 26 ศพ เป็นชาย 25 ศพ และหญิง 1 ศพ มีทั้งที่เสียชีวิตมาแล้วเป็นปี และเพิ่งเสียชีวิต ซึ่งชี้ว่าแคมป์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมานาน ส่วนสาเหตุของการตายนั้นต้องรอผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แต่เบื้องต้นคาดว่าตายเพราะป่วยและขาดอาหาร ซึ่งขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้เป็นอาชญากรข้ามชาติ มีทั้งไทย พม่า และมาเลเซีย ทำมาแล้วอย่างน้อย 3-4 ปี
 

มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 8 คนแล้ว เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 3-4 คน ในจำนวนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองซึ่งเป็นเจ้าของแคมป์ใหญ่บนเทือกเขาแก้ว และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อคดีนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และผู้นำท้องถิ่น และมีชาวโรฮิงญาด้วยกันเองรวมอยู่ด้วย และจากการสืบสวนพบว่า ทั้งหมดได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
 

 
นายอารี อารีฟ ตัวแทนสำนักจุฬาราชมนตรี และกรรมการสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งเข้ารับฟังการแถลงข่าว ได้เสนอแนวกระบวนการจัดการต่อปัญหาชาวโรฮิงญา โดยขอให้ดำเนินคดีขั้นเด็ดหากมีมุสลิมเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือผู้นำศาสนา และให้ทางสำนักจุฬาราชมนตรี และภาครัฐเข้ามาร่วมจัดการด้านมนุษยธรรมต่อชาวโรฮิงญาทั้งที่มีชีวิต และเสียชีวิต
 

 
และหลังเกิดคดีพบแคมป์และหลุมฝังศพในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ปาดังเบซาร์ ล่าสุด ในวันนี้ ทางกองบังคับการตำรวจ ได้มีคำสั่งด่วนให้ตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ 2 นาย คือ ร.ต.ต.อารีย์ หมัดสมัคร รองสารวัตรป้องกันปราบปราม และ ด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ไม่มีกำหนดจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ เพราะจากการสอบสวนพบว่า เข้าไปมีส่วนพัวพันต่อคดีนี้
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น