ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับแคมป์และสุสานชาวโรฮิงญาที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย เผยเร่งรวบรวบพยานหลักฐานและสามารถเอาผิดในข้อหาค้ามนุษย์ได้แล้วจำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับแคมป์และสุสานชาวโรฮิงญาบนเทือกเขาแก้ว ชายแดนไทย-มาเลเซีย ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จากการรวบรวมหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เวลานี้สามารถที่จะขอออกหมายจับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ได้แล้วจำนวนหนึ่ง
จากการเปิดเผยของ พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่ว่า หลังการประชุมสรุปความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ เจ้าหน้าที่เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในเร็วนี้ๆ แล้ว โดยกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนจะมีกี่คน เป็นคนไทยหรือต่างชาตินั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ จากพยานหลักฐานสามารถดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์ได้ ส่วนพื้นที่ที่ใช้ตั้งแคมป์และสุสานฝังศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมที่ดินระบุว่าเป็นป่าสงวน แม้ไม่มีเอกสารสิทธิ์และผู้ครอบครองตามกฎหมาย แต่จะดูว่าใครครอบครองในลักษณะที่ใช้ประโยชน์ หากสาวไปถึงใครก็จะออกหมายจับคนนั้น
ในส่วนของพยาน 2 คนที่เป็นชาวโรฮิงญาและบังคลาเทศ ซึ่งพบในพื้นที่เกิดเหตุนั้น ได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างดี และกำลังตรวจสอบพื้นที่เทือกเขาแก้วเพิ่มเติมว่า ยังมีแคมป์กักขังชาวโรฮิงญาหลงเหลืออีกหรือไม่
พล.ต.ต.พุทธิชาติ เปิดเผยว่า สำหรับตัวเลขของชาวโรฮิงญาที่เสียชีวิตมีทั้งหมด 26 ศพ ขณะนี้ยังเหลือที่รอการตรวจพิสูจน์ของแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสงขลานครินทร์อีก 6 ศพ ส่วน ในจำนวนนี้มี 2 ศพที่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นศพของนายคาซิน ซึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ในพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราชหรือไม่ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงที่นำไปสู่การพบแคมป์และสุสานโรฮิงญา
